หน้าเว็บ

วันพุธที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2565

สำนักงานหนังสือพิมพ์ทันใจนิวส์

นายอุตตม สาวนายน หน.พรรคสร้างอนาคตไทย นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รอง หน.พรรค ประธานภาคใต้ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค จัดงาน ปาฐกถาพิเศษในงานเสวนา “สร้างอนาคตภาคใต้” 
เมื่อวันที่ 26 ก.ค.2565 เวลา 1000 พรรคสร้างอนาคตไทย และสมาคมสื่อมวลชนภาคใต้ 2558 (ส.ม.ต.) ได้เชิญ ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ให้เกียรติกล่าว ปาฐกถาพิเศษในงานเสวนา “สร้างอนาคตภาคใต้” โดยมีนักธุรกิจจากภาคใต้เข้าร่วมรับฟังจำนวนมาก จัดขึ้นที่โรงแรมบุรีศรีภู คอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา 

โดยดร.สมคิด กล่าวตอนหนึ่งว่า ตอนนี้คนไทยส่วนใหญ่มีคำถามในใจโดยเฉพาะเรื่องเศรษฐกิจ ฐานะเศรษฐกิจโลกขณะนี้สรุปได้ 2 ประโยค เศรษฐกิจโลกขณะนี้เกินคาดคิด หนักและลึกเกินกว่าที่ใคร ๆ เคยคิดไว้ อนาคตยังไม่สามารถจินตนาการได้ว่าจะไปถึงจุดไหน เป็นสิ่งที่คนไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งรัฐบาลไทยจะต้องไม่ตั้งอยู่ในความประมาทเด็ดขาด แต่ละประเทศสะท้อนความเป็นห่วงกังวลอย่างเห็นได้ชัด อย่าคิดว่าวิกฤติเศรษฐกิจห่างไกลจากประเทศไทย แต่ต้องคิดว่าจะเตรียมรับมืออย่างไร ทำไมเศรษฐกิจโลกถึงหนักกว่าที่คิด ลึกกว่าที่คาด  อย่างสถานการณ์โควิด เกิดขึ้นมาใคร ๆ ก็คาดคิดว่าคงอยู่ไม่นาน แค่มีวัคซีนทุกอย่างก็หายไป ขณะรอวัคซีนก็ใช้วิธีล็อคดาวน์กันคนไม่ให้เจอกัน ส่งผลให้การผลิตหยุดชะงัก ชาวบ้านไม่มีงานทำ รัฐบาลต้องเอาเงินมาดูแลคนที่ลำบาก 

ซึ่งสถานการณ์โควิดยังไม่ทันจบก็มีสถานการณ์ยูเครนและรัสเซีย ซึ่งเปรียบเหมือนพายุลูกที่ 1 โดยองค์กรการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ระบุว่า เศรษฐกิจโลกเผชิญความเสี่ยง 3 ด้าน ที่รวมกันเป็นเพอร์เฟคสตรอม ซึ่งพายุ 3 ลูกใหญ่มาพร้อมๆกันสมบูรณ์แบบ ประกอบด้วย สงครามรัสเซียและยูเครน  พร้อมกรณีที่ธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา (เฟด) ให้ความสำคัญกับการต่อสู้กับเงินเฟ้อ ด้วยการเร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งจะนำไปสู่เศรษฐกิจสหรัฐฯ ถดถอย และกระทบเศรษฐกิจทั่วโลก และลูกที่ 3 คือ ปัญหาการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนที่ได้รับผลกระทบมาจากการล็อคดาวน์ เพื่อควบคุมโควิด

"คำพูดที่ IMF ระบุว่าสถานการณ์ขณะนี้ดาร์คแล้วแต่ปีหน้าจะดาร์คยิ่งกว่า มีแต่ประเทศไทยที่บอกว่าปีนี้แย่แต่ปีหน้าดีขึ้น ซึ่งตรงนี้ เป็นการมองโลกในแง่ดี เป็นสิ่งที่ดี แต่อย่าประมาท ประเด็นอยู่ที่ว่า ถ้าพายุ 3 ลูก ซึ่งมาพร้อมกันเป็นเพอร์เฟคสตรอม จะทำให้การค้าเศรษฐกิจการเงินพังแบบแยกกันไม่ออก  ไทยต้องพร้อมรับมือ หากถามว่าเกี่ยวพันกับประเทศไทยอย่างไร การส่งออก คือเส้นเลือดใหญ่ของประเทศไทย โดนแน่ ไม่มากก็น้อย เงินบาทอ่อนยังช่วยได้บางส่วน นอกจากนี้มีค่าเงินบาทผันผวน ทั่วโลกค่าเงินสวิงได้ตลอดเวลา แต่ถ้าค่าเงินเล็ก ๆ อย่างประเทศไทยหากสวิงเรื่อยๆ คนไม่กล้าลงทุน อีกทั้งถ้าเศรษฐกิจโลกไม่ดีความต้องการสินค้าของโลกก็ถดถอย และท่องเที่ยวถูกกระทบแน่" ดร.สมคิด กล่าว 

ดร.สมคิด กล่าวว่า ขณะนี้ท่องเที่ยวเริ่มดีขึ้น มีคนเยอะขึ้น เมื่อครั้งที่แล้วตนมาหาดใหญ่เงียบเหงาจนน่าเป็นห่วง นักท่องเที่ยวถ้าคาดไม่ผิดขณะนี้อยู่ที่ประมาณหนึ่งล้านเศษๆ ต่อปี เราเคยอยู่ที่ 40-50 ล้านต่อปีเคยสูงถึง 20 เปอร์เซ็นต์ของจีดีพี สร้างธุรกิจ สร้างงาน แรงงานมีงานทำ เราต้องดึงนักท่องเที่ยวจีนเข้ามาให้เกิดการจับจ่ายใช้สอย ทั่วโลกต้องการนักท่องเที่ยวจากจีน อยู่ที่ว่าจีนจะปล่อยให้ใคร ถ้าไม่มีสายต่อกับจีนอย่าคิดว่าจะได้มาฟรี ๆ  ดังนั้นสิ่งเหล่านี้กระทบแน่ ส่งออกนำเข้าของแพง

ดร.สมคิด กล่าวว่า ปัญหาเศรษฐกิจโลกจะกระทบไทยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ดูแล้วไม่ใช่ว่า จะจบใน 2 ปี การเตรียมตัวที่ดีที่สุดคือ ดูว่าหน้าตักของเรามีอยู่แค่ไหน หากไม่มีเงินมาดูแลจะต้องชีช้ำกันเยอะ  เคยเตือนว่า ขณะนี้เป็นภาวะไม่ปกติ ไม่สามารถจัดงบประมาณแบบปกติได้ งบประมาณแต่ละปีหมดไปกับอะไรก็ไม่รู้  ต้องรู้ว่า อะไรควรหยุด อะไรควรเกลี่ย  เดือดร้อนตรงไหนเตรียมเงินก้อนใหญ่ ๆ ไว้ ไม่ใช่มีแค่งบกลางของนายกฯ  80,000- 90,000 ล้านบาท จะเอาเยอะกว่านั้นต้องไปสะกิดผู้อำนวยการสำนักงบประมาณให้เตรียมตัวไว้ ไม่งั้นจะไม่มีเงินใช้  อย่าอีลุ่ยฉุยแฉก  ส่วนที่สองคือ เงินกู้ ซึ่งหน้าตักตอนนี้ อย่างเก่งก็สร้างหนี้สาธารณะได้แค่ 65 เปอร์เซ็นต์ของจีดีพีตรงนั้นจะมีเงินไม่กี่แสนล้านที่อุดช่องว่างพอให้ยืดหยุ่นได้ 

"คนบอกเมืองไทยยังห่างไกลประเทศศรีลังกา เพราะไทยมีเงินสำรองระหว่างประเทศกว่า 210,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ มีมากพอที่พ่อค้าจะสั่งสินค้าเข้ามาถึง 8 เดือน มีหนี้ระยะยาวมากกว่าหนี้ระยะสั้น 3 เท่าตัว ฉะนั้นห่างไกลจากวิกฤติการณ์ ตรงนี้ชัดเจนไม่มีใครเถียง แต่มีอีกปัญหาที่ต้องดูคือ ขณะนี้ไทยเกิดปัญหาขาดดุลคู่ คือ ขาดดุลการคลังมานานแล้ว   ขณะที่ดุลบัญชีเดินสะพัดเริ่มขาดดุล การส่งออกเริ่มเบาบางลง ตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา มีที่เป็นบวก 3-4 เดือน แต่การนำเข้า มูลค่าแพงขึ้น ทำให้การขาดดุลเริ่มเกิด ถ้าเมื่อใดที่ประเทศใดขาดดุลสองดุลนี้คู่กันนาน ๆ มันเป็นสัญญาณที่ไม่ดีสิ่งเหล่านี้ระเบิดพร้อม ๆ กันเศรษฐกิจหักข้อศอก" นายสมคิด กล่าว

นายสมคิด กล่าวต่อว่า เรามีสิ่งเดียวที่ว่า เราอุ่นใจคือมีเงินทุนสำรองระหว่างประเทศสูง 210,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หนาแน่นพอ แต่หนี้ต่างประเทศของไทยจริง ๆ มีถึง 190,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ มันบาง ๆ แม้ไม่ใช่หนี้ระยะสั้นแต่ก็เป็นหนี้ และเวลาเกิดอะไรขึ้นก็ตาม เขาทวงคืนเมื่อใดก็ได้  ถามว่า แล้วจะทำอย่างไร ตรงนี้รัฐบาลต้องตอบให้ได้ว่า จะทำอย่างไร เพราะประชาชนรอฟังอยู่ ให้อุ่นใจว่า ลูกเต้าจะมีกิน  ถ้าเศรษฐกิจไม่ดีจะไม่ตกงาน นี่คือสิ่งที่เขารอฟังทุกคนและเป็นหน้าที่ของคนที่ดูแลต้องอธิบาย

“ขอฝากถึงรัฐบาล 2 เรื่องคือเรื่องการเตรียมพร้อมเงินที่จะรองรับ ไม่ใช่แค่จัดงบกลาง อาจเป็นการตั้งกองทุนเฉพาะกิจขึ้น โดยต้องไปดูแหล่งเงินว่า จะเอามาจากที่ใด หากจะมีการกู้เงินเพิ่มเติมก็ต้องใช้สำหรับการลงทุนที่สามารถสร้างการจ้างงาน และเปลี่ยนแปลงโครงสร้างเศรษฐกิจของประเทศได้ด้วย นอกจากนี้ ต้องเตรียมมาตรการช่วยเหลือคือเอสเอ็มอีที่จะเผชิญปัญหาเมื่อเจอภาวะวิกฤติ ซึ่งต้องดูในส่วนของการเพิ่มทุนให้กับธนาคารเฉพาะกิจของรัฐให้เพียงพอที่จะปล่อยสินเชื่อให้กับเอสเอ็มอีได้เพื่อให้ธุรกิจไม่ล้มและสามารถรักษาการจ้างงานไว้ได้” นายสมคิด ระบุ

ดร.สมคิด กล่าวว่า พื้นที่ภาคใต้เป็นดินแดนอุดมสมบูรณ์ แต่เศรษฐกิจภาคใต้ไม่ถึง 10 เปอร์เซ็นต์ คนจนยังมีอยู่เยอะในขณะที่ในน้ำมีปลา ดินดีปลูกอะไรก็ขึ้น อย่าไปหวังว่าใครจะช่วยคนใต้ได้ อนาคตคนใต้ถูกกำหนดโดยคนใต้เอง สงขลาต้องเป็นเมืองเศรษฐกิจ ทำอย่างไรจะพัฒนา และให้เกิดผลพวงสู่จังหวัดใกล้เคียง ปัญหาการกระจุกตัวอยู่ส่วนกลาง ภาคใต้ ภูเก็ต สุราษฎร์ธานี สงขลา เศรษฐกิจกระจุกตัว คิดถึงโครงการใหญ่ ๆ ใช้โอกาสในการพัฒนาศักยภาพจากภายใน ผลักดันเงินไปในหมู่บ้าน และชุมชนและให้เขาบริหารจัดการเอง  ถ้ากระทรวงขับเคลื่อนไม่ได้เราก็ต้องขับเคลื่อนด้วยตัวเอง ทำให้หลากหลาย และยกระดับให้ดีขึ้น


ดร.สมคิด กล่าวอีกว่า การเชื่อมโยงโครงข่ายการคมนาคมคือหัวใจ ในการสร้างเศรษฐกิจทั้งเชื่อมโยง EEC ขนส่งรถไฟรางคู่ การท่องเที่ยวก็ต้องมีการเชื่อมโยงถึงกันอย่างไม่ยาก  สร้างแหล่งท่องเที่ยวชุมชน หรือยกชุมชนมาหาแหล่งท่องเที่ยว  เพราะฉะนั้นการเชื่อมโครงข่ายด้านการคมนาคมจึงสำคัญมาก 

“วันนี้ต้องคิดให้ดี ๆ ว่าใคร พรรคไหนจะสร้างความเปลี่ยนแปลงให้คุณ ไม่ใช่ไปสร้างสิ่งเดิม ๆ พยายามเลือกคนที่เป็นหนุ่มสาวหน่อย ไม่ใช่คนแก่ไม่ดี แต่คนหนุ่มสาวมีจินตนาการ มีไฟ ตกงานก็กลับบ้านไปทำสวนแบบสมาร์ทฟาร์มเมอร์ หาแหล่งเงินทุนให้เขา เติมความฝันให้เขา สิ่งเหล่านี้คนรุ่นใหม่ต้องเลือกแล้วคิดว่าจะสร้างอนาคตแบบไหน ภาคใต้สวรรค์ให้มาครบ คุณต้องเลือกพรรคไหน และไปมีเสียงในสภา “ ดร.สมคิด กล่าว

ซัมซูดิน เจ๊ะแดร์ รองหัวหน้า ศูนย์ข่าวหนังสือพิมพ์ทันใจนิวส์จังหวัดสงขลา
สนับสนุนโดย
 รายงานข่าว