“กิจกรรมเฉลิมพระเกียรติเนื่องในวันคล้ายวันประสูติของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา”
จังหวัดสุพรรณบุรี ได้มอบหมายให้ สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดสุพรรณบุรี จัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติเนื่องในวันคล้ายวันประสูติของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา โดยจัดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ และประชาสัมพันธ์เชิญชวนแต่งกายด้วยผ้าลายพระราชทาน “ผ้ามัดหมี่ ลายขอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ” ณ บริเวณทางเข้าศาลากลางจังหวัดสุพรรณบุรี ชั้น 1 เพื่อแสดงความจงรักภักดีและน้อมสำนึกในพระกรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้
สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดสุพรรณบุรี ได้นำผ้าทอลายขอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ ซึ่งเป็นฝีมือการทอผ้าของผู้ประกอบการ OTOP ประเภทผ้าและเครื่องแต่งกายของจังหวัดสุพรรณบุรี ทั้งเทคนิคการทอผ้าและการพิมพ์ลาย นำมาจัดแสดงในนิทรรศการนี้ด้วย โดยจังหวัดสุพรรณบุรี มีผู้ประกอบการ OTOP ที่นำลายผ้าลายขอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ มาทอเป็นผ้าผืนและพิมพ์ลายตัดเย็บ เป็นเครื่องแต่งกายจำนวน 6 ราย สามารถสร้างรายได้มากกว่า 560,000 บาท
เนื่องในโอกาสวันที่ 8 มกราคม 2565 เป็นวันคล้ายวันประสูติของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา จังหวัดสุพรรณบุรี สำนึกในพระกรุณาธิคุณสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ที่ทรงมีต่อปวงพสกนิกร ในการที่ทรงมุ่งมั่นสืบสานพระราชปณิธานของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในการอนุรักษ์ ฟื้นฟูศิลปวัฒนธรรม ภูมิปัญญาหัตถกรรมไทย ให้ดำรงอยู่ยั่งยืนตลอดไป อีกทั้งทรงพระราชทานแบบลายผ้าชื่อลาย “ผ้ามัดหมี่ลายขอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ” แก่พสกนิกรชาวไทย อันเป็นสิ่งที่ประจักษ์ชัดถึงพระปรีชาสามารถในด้านการออกแบบ เกิดความเชื่อมั่นว่าความงดงามของผ้าไทยจะคงอยู่คู่กับสังคมไทย และทรงพระราชทานลายผ้าบาติก 3 ลาย “ปาเต๊ะร่วมใจเทิดไท้เจ้าหญิง” “ท้องทะเลไทย” และ “ป่าแดนใต้” ที่พระองค์ได้แรงบันดาลพระทัยจากการเสด็จไปทอดพระเนตรงานศิลปหัตถกรรมจากภูมิปัญญาพื้นถิ่นในภาคใต้หลายครั้ง ทรงพบเห็นวิถีชีวิตและธรรมชาติของภาคใต้ ที่มีเอกลักษณ์ เพื่อพระราชทานให้กับช่างฝีมือบาติกเป็นของขวัญตอบแทนมิตรภาพและความจริงใจ ที่ประชาชนชาวภาคใต้มอบให้กับพระองค์ รวมทั้งยังเป็นการเพิ่มคุณค่าและมูลค่าของผลิตภัณฑ์ด้วยเรื่องราวและความหมายชวนประทับใจเป็นการยกระดับผ้าไทยให้มีความร่วมสมัย สามารถก้าวสู่ระดับสากล เพื่อวิถีชุมชนที่ยั่งยืนเปรียบดังแสงสว่างแห่งวิถีความงดงามของอัตลักษณ์ไทย นำทางให้เกิดการสร้างงาน สร้างรายได้ และสร้างความเข้มแข็งให้แก่ชุมชนเศรษฐกิจฐานราก อันเป็นพลังที่จะสืบสาน ความเป็นไทยให้คงอยู่สืบไป
สนับสนุนโดย
