วันพฤหัสบดีที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2565

สำนักงานหนังสือพิมพ์ทันใจนิวส์

  เมื่อเวลา 18.45 น.ของค่ำวันที่ 19 ต.ค.65 ขณะที่ทุกคนได้ทานข้าวเย็นพักผ่อนกันอยู่นั้น ได้ยีนเสียงปืนดังขึ้นมา 2 นัด ที่บ้านข้าง ร.ร.บ้านแม่ขมิง ห่างจากบ้านผู้ใหญ่บ้าน 100 เมตร สักครู่หนึ่งได้มีเด็กหญิงวิ่งออกบ้านมาบอกให้ผู้ใหญ่ว่า พ่อโพธิ์ยิง พ่อแม่ตายแล้ว 
      ขณะนั้น นายอัจฉริยะพงษ์  ปันฟอง ผญบ.แม่ขมิงหมู่ 2 ต.สรอย อ.วังชิ้น จ.แพร่ กำลังจะไปร่วมงานศพของแม่ผู้ใหญ่บ้าน อีกหมู่บ้านหนึ่งพอดี จึงได้รีบวิ่งไปดู ปรากฎว่านาบกันยา อุดกันทา และ นางแพรวพรรณ  ปันฟอง ถูกยิงเสียชีวิต อยู่ห้องครัวหลังบ้านทั้งสองคน  จึงได้โทรศัพท์แจ้งไปที่ พ.ต.ท.กัณฑสิทธิ์  คงต่อ สวป.สภ.หนองม่วงไข่ รรท.สว.สภ.สรอยให้รับทราบ แจ้ง ร.ต.อ.อนวัธ แสนอินทร์ รอง สว.(สอบสวน)นำชุดสายตรวจ ,ชุดสืบสวน ออกไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมแจ้งประสานไปยังนายอัมพร  ฐานะวุฒิกุล นายก อบต.สรอย นำรถกู้ชีพกู้ภัยไปที่เกิดเหตุ แล้วรายงานให้ทาง นายปานศร ภมรคนธืนายอำเภอวังชิ้นรับทราบ แล้วสั่งการให้ นายอธิวัฒน์  อารัญ  ปลัดอำเภอ หัวหน้างานบริหารปลัด อ.วังชิ้น,นายนิรันดร์  สายมัน ปลัดฝ่ายป้องกัน พร้อมชุด อส.ำกำลังเข้าไปสมทบ เนื่องจากเป็นอุกฉกรรจ์และเป็นเวลาพลบค่ำ คนร้ายอุกอาจมีอาวุธปืน ทาง สภ.สรอย จึงได้แจ้งไปขอกำลังจาก นปพ.ภ.จว.แพร่เข้ามาเสริม ในการป้องกันเหตุที่อาจเกิดขึ้นและรักษาพื้นที่ สถานที่เกิดเหตุเอาไว้รอ แพทย์เวร รพ.วังชิ้น พร้อมกองพิสูจน์หลักฐาน จาก ภ.จว.แพร่ ที่มาร่วมกันพิสูจน์ในที่เกิดเหตุ
     สถานที่เกิดเหตุ เป็นบ้านของนาย กันยา  อุดกันทาและนางแพรวพรรณ ปันฟอง ของผู้ตาย เลขที่ 83 ม.2 แม่ขมิง ต.สรอย อ.วังชิ้น จ.แพร่ สร้างด้วย อิฐถือปูนชั้นเดียวติดดิน หลังคามุงกระเบื้อง ลักษณะบ้านโล่งไปถึงโรงครัวหลังบ้าน ประตูเข้าด้านหน้าทะลุออกด้านหลัง มีห้องนอนติดห้องครัว 
      สถานที่พบศพนายกันยา อุดกันทา สวมกางเกงขาสั้น ไม่สวมใส่เสื้อ ถูกยิงด้วยอาวุธปืนลูก.องเข้าที่หน้าอกทะลุด้านหลัง  และศพของนางแพรวพรรณ ปันฟอง (ดอายุ 27 ปี ภรรยาผู้ตายสวมใส่กางเกงสามส่วนสีน้ำตาล สวมใส่เสื้อสีแดง ถูกยิงที่ราวนมด้านซ้าย ทะลุหลัง  นอนจมกองเลือดเสียชีวิตอยู่ใกล้กัน เลือดไหแดงเต็มห้องครัวไปหมดเหม็นคาวคลุ้ง

     ในวันเวลาดังกล่าวข้างต้น ทั้งสองคนหลังกลับจากทำงานมาแล้วกำลังจะทำกับข้าวตอนเย็นอยู่ที่ห้องครัวหลังบ้าน และมีลูกสาวอายุ 9 ขวบ ลูกชายอายุ4 ขวบนั่งเล่นรอพ่อแม่ทำกับข้าวให้กินอยู่นั้น ก็ได้มีนายโพธิ์  บุญมาเลิศ อายุ 42 ปี ได้เดินเข้ามาในบ้านไม่ได้พูดอะไรเมื่อเห็นทั้งสองกำลังทำกับข้าวอยู่ด้วยกันเป็นภาพบาดตา จึงชักปืนลูกซองที่เตรียมมายิงไปที่หน้าอกของนายกันยาล้มฟุ้บกองเลือดแล้วบรรจุลูกกระสุนไปอีก 1 นัดยิงนางแพรวพรรณ ที่ยืนตกตลึงอยู่นั้นเข้าที่ราวนมซ้าย ทะลุหลัง ล้มลงข้างๆนายกันยาอีกศพหนึ่ง ต่อหน้าลูกสาวและลูกชายทั้งสองคน ลูกสาวจึงได้วิ่งไปแจ้งผู้ใหญ่ว่า  พ่อโพธิ์ ยิงพ่อกับแม่ตายแล้ว
     ต่อมานายอัจฉริยะพงษ์  ปันฟอง ผญบ.เข้าไปดูเห็นวศพนอนแน่นิ่งเข้าใจว่าเสียชีวิตแล้วจึงได้แจ้งให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและนายอำเภอวังชิ้นรับทราบตามลำดับขั้นตอนของสายงานบังคับบัญชา

     ส่วนสาเหตุของการยิงกันตายสองศพในครั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้สอบถามพ่อและญาติผู้ตายทั้งสองฝ่ายแล้วทราบว่า  นายกันยา ผู้ถูกยิงตาย กับนายโพธิ์  บุญมาเลิศ  มือปืน เป็นเพื่อนรักกันมาก่อนตั้งแต่เล็กๆแล้ว มักเข้าป่าล่าสัตว์ไปไหนด้วยกันเสมอ  เมื่อประมาณปี 57หรือ 58 ทั้งสองได้รักและชอบพอ กับ นมีส.แพรวพรรณคนเดียวกัน  นส แพรวพรรณได้เลือกเอานายกันยา  มาเป็นสามีอยู่กินกันจนมีลูก 2 คน ดญ.อายุ9 ปีและ ดช.อายุ4 ปี มาประมาณปี 84 ทั้งสองไดแยกทางกัน แบ่งลูกกันไปเลี้ยง ลูกสาวอยู่กับแม่  ลูกชายคนเล็ก  อยู่กับพ่อ  นส.แพรงพรรณ  จึงได้ไปหานายโพธิ์  สามีใหม่ เพื่อนของสามีเก่า โดยเอาลูกสาวไปเลี้ยงดูอยู่กับนายโพธิ์ บอกว่าได้เลิกลากับนายกันยาแล้วจึงได้นำลูกมาขออยู่ด้วย นายโพธิ์ ฯเห็นง่าทั่งคู่เลิกกันจริงแล้ว จึงงยอมรับเอาเมืยเก่าเพื่อน เป็นเมียใหม่ตนเอง  หลังจากอยู่กินเปผ็นผัวเมียกันได้ 2 ปี นส.แพรวพรรณ ก็ได้เลืกกับสามีใหม่  กลับไปหาผังเก่าเหมือนเดิม  โดยได้บอก สามีเก่าว่า  เลิกกับผ้วใหม่แล้ว ไหนๆเราก็มีลูกด้วยกันแล้วขอกลับมาอยู่คืนดีกันใหม่นะ  จึงเป็นสาเหตุของการเกิดคดีอาชญากรรมขึ้นมาครั้งนี้ กลับกลายเป็นรักสามเส้า ทางสามแพร่ง นางแพรวพราวทำใจไม่ถูกว่าจะเลือกเอาใครดี เริ่มมีเรื่องบาดหมางแค้นเคืองอยู่ในใจของนายกันยา ที่นางกลับไปกลับมา ปากบอกว่าเลิกแต่พฤติกรรมการณ์ไม่ใว้วางใจ นายโพธิ์ จึงได้แอบซุ่มดุพฤติการณ์ของ น.ส.แพรวพรรณ มาตลอดเวลา ทางนายอินสวน  ปันฟอง อายุ 48 ปี พ่อ น.ส.แพรวพรรณฯ ผู้ตาย ได้ใหัมภาษณ? ผู้สื่อข่าวฟังว่า ได้กล่าวตักเตือน ลูกสาวแล้วว่าให้เลิกพฤติการณ์แบบนี้เสีย มันไม่ดี เตือนสติลูกสาวมาตลอดจนไม่รู้จะว่าอย่างไร เพราะลูกสาวมันก็โตมีลูกแล้ว ก็เลยไม่ได้สนใจอะไร มันเป็นเรื่องส่วนตัวระหว่าคนสามคนที่ต้องคูยกัน มันไม่ใช่ใครอื่นที่ไหน ผัวเก่า ผัวใหม่เป็นเพื่อนเดียวกัน อยู่หมู่บ้านเดียวกัน และมารรักลูกสาวของตน ก็เป็นคนอยู่หมู่บ้านเดียวกัน ไม่ห่างกันไม่คิดว่าจะลงเอยกันอย่างนี้ ขณะเกิดเหตุ ตนเองไม่ได้อยู่บ้าน ไปท่านข้าวที่บ้านญาติ ได้รับแจ้งจึงรีบมาดู  เห็นไหรถของเจ้าหน้าที่ กู็ภัย อบต. อบต.สรอย  เปิดไฟวาบๆอยู่  แต่เข้าไม่ได้  ตำรวจได้กั้นที่เกืดเหตุกันไว้ จึงได้แต่รอ  เตนไม่รู้จะทำอย่่างไร อยู่กับลูก สองคน ภรรยาก็หนีจากไป   สงสารหลานทั้งสองคนอายุ 9 ขวบ กับ4 ขวบ ที่กำลังเรียนหนังสืออยู่ได้เฟ็นภาพติดตาไม่รู้ว่าสุขภาพจิตจะเป็นอย่างไร  และต้องมากำพร้าพ่อแม่ตั้งแต่อายุแค่นี้  มันเป็นโศกฆาตกรรมเกิดขึ้นที่เด็กเห็นกับตา  ไม่รู้ว่าอนาคตข้างหน้าจะเรรียนรแบบพฤติกรรมนี้หรือไม่่  น่าสงสารเด็กๆทั้งสองคน  ที่ยังเล็กอยู่ในวัยเรียนต้องกำพร้าพ่อตั้งแต่อายุยังน้อย เพราะรักสามเส้า ไม่รู้ว่ามันจะลงเอยอย่างนี้
 ร.ต.อ ธนาเดช ดอกจือ หัวหน้าศูนย์ข่าวหนังสือพิมพ์ทันใจนิวส์จังหวัดแพร่
สนับสนุนโดย
 รายงานข่าว

โพสต์ข่าวแนะนำ

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ส่งต่อธารน้ำใจผู้มีจิตศรัทธา มอบเงินกว่า 4.7ล้านบาท สงเคราะห์ผู้ป่วยขาดแคลน ในเขตกรุงเทพฯ ปริมณฑล และภูมิภาค รวม 71 แห่ง

สำนักงานหนังสือพิมพ์ทันใจนิวส์ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ส่งต่อธารน้ำใจผู้มีจิตศรัทธา มอบเงินกว่า 4.7ล้านบาท สงเคราะห์ผู้ป่วยขาดแคลน ในเขตกรุงเทพฯ ...

ข่าวดัง ยอดนิยม คนสนใจ