วันพฤหัสบดีที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2568

ตำรวจพิษณุโลกจับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ยึดเงินสดคืนผู้เสียหาย 1.9 ล้านบาท

สำนักงานหนังสือพิมพ์ทันใจนิวส์

ตำรวจพิษณุโลกจับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ยึดเงินสดคืนผู้เสียหาย 1.9 ล้านบาท


ตำรวจภูธรเมืองพิษณุโลก แถลงผลการจับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ยึดเงินสดกว่า 3.1 ล้านบาท พร้อมมอบเงินคืนผู้เสียหายรายสำคัญ 1.9 ล้านบาท หลังสืบสวนพบกลุ่มผู้ต้องหา 4 คน ถอนเงินสดจากธนาคารในห้างดังพิษณุโลก โดยไม่สามารถชี้แจงแหล่งที่มาของเงินได้ 

เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 29 ตุลาคม 2568 ที่ ห้องประชุม ศปก.สภ.เมืองพิษณุโลก พล.ต.ต.ณัฐวุฒิ ภาคภูมิ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 แถลงผลการจับกุมและตรวจยึดเงินสดกว่า 3,100,000 บาท จากเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในพื้นที่จังหวัดพิษณุโลก โดยวันนี้ได้มอบคืนเงินให้ผู้เสียหายจำนวน 1,900,000 บาท  
โดยเหตุเกิดตั้งแต่ 31 กรกฎาคม 2568 เมื่อเจ้าหน้าที่ บก.สส.ภ.6 ได้รับแจ้งว่ามีกลุ่มคนร้ายเข้าถอนเงินสดผ่านหน้าเคาน์เตอร์ธนาคารกสิกรไทยและไทยพาณิชย์ ภายในห้างสรรพสินค้า เซ็นทรัล พิษณุโลก หลายรายการ จึงเข้าตรวจสอบและพบกลุ่มผู้ต้องหาจำนวน 4 คน (ไม่เปิดเผยชื่ออยู่ระหว่างขยายผล) อยู่บริเวณศูนย์อาหาร พร้อมของกลางเป็นเงินสดกว่า 3.1 ล้านบาท 
กลุ่มผู้ต้องหาทั้งหมดไม่สามารถชี้แจงแหล่งที่มาของเงินสดได้ เจ้าหน้าที่จึงตรวจยึดของกลางไว้ตรวจสอบเพิ่มเติม ประกอบด้วย เงินสดจำนวน 3,100,000 บาท โทรศัพท์มือถือ iPhone รถยนต์เบนซ์สีดำที่ใช้ในการกระทำความผิด จากการตรวจสอบเพิ่มเติมพบเอกสารการถอนเงินสด 3 ฉบับ รวมมูลค่ากว่า 2,990,000 บาท โดยเชื่อมโยงบัญชีของผู้เสียหาย 3 ราย 
การตรวจสอบแอปฯ Telegram ในโทรศัพท์ของผู้ต้องหา พบการพูดคุยกับกลุ่มผู้รับผลประโยชน์ และเชื่อมโยงไปยังบัญชี ธ.ออมสิน ชื่อ น.ส.พรหมพร ภัทรคุณากุล อายุ 22 ปี ผู้เสียหายที่ถูกหลอกให้โอนเงิน 1,900,000 บาท ภายใต้โครงการหลอกลวง “Money Cash Back” 
พล.ต.ต.ณัฐวุฒิ ภาคภูมิ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6  เปิดเผยว่า ตำรวจไม่มีนโยบายในการเรียกตรวจสอบเงิน หรือ ให้โอนเงินไปตรวจสอบ หากเจอโทรศัพท์ลักษณะนี้เข้ามา ขอให้ระวังต้องสังเกตว่าจะถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอก 
จากการสืบสวนพบว่าคนร้ายแบ่งหน้าที่กันทำเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มบัญชีม้า ทำหน้าที่เปิดบัญชี ถอนเงินสดหน้าเคาน์เตอร์ กลุ่มควบคุมเงิน รับเงินสด จ่ายค่าตอบแทน และส่งต่อให้กลุ่มผู้บงการ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถดำเนินคดีผู้ต้องหาได้แล้วรวม 7 ราย และอยู่ระหว่างขยายผลหาผู้ร่วมขบวนการเพิ่มเติม โดยในวันนี้ น.ส.พรหมพร ภัทรคุณากุล อายุ 22 ปี ผู้เสียหายชาว จ.เชียงราย พร้อมครอบครัว ได้เดินทางมารับเงินคืนจำนวน 1,900,000 บาท ด้วยตนเอง ที่ สภ.เมืองพิษณุโลก 
ด้าน น.ส.พรหมพร ภัทรคุณากุล อายุ 22 ปี ผู้เสียหาย ได้เล่ากลโกงของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ว่า ตนเองทำอาชีพรับจ้างตัดเย็บเสื้อผ้าอยู่ที่ จ.เชียงราย โดยเมื่อเดือนเมษายน 2568 ตนเองได้ถูกล็อตเตอรี่รางวัลที่ 1 ได้รับเงินประมาณ 6 ล้านบาท โดยได้แบ่งเงินให้พ่อแม่และพี่สาว รวม 4 ล้านบาท ส่วนตนเองเหลืออยู่ประมาณเกือบ 2 ล้านบาท






และเมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2568 ได้รับสายจากแก๊งคอลเซนเตอร์อ้างตัวว่าเป็นพนักงานธนาคาร บอกว่าบัญชีของตนผิดปกติมีคนนำไปใช้ในทางผิดกฎหมาย แนะนำให้แจ้งความจากนั้น แก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้โอนสายให้ตำรวจปลอมทำรับเรื่องแจ้งความ ก่อนตกหลุมพรางอ้างว่าให้โอนเงินไปทำการตรวจสอบ จนกระทั่งได้โอนเงินทั้งหมดที่มีจำนวน 1.9 ล้านบาทให้ไป โดยขณะนั้นตำรวจปลอมอ้างว่าห้ามบอกใครแม้กระทั่งครอบครัว  จากนั้นได้มีสายจากธนาคาร(ของจริง) ที่ตนฝากเงินอยู่ โทรมาสอบถามว่ามีการโอนเงินออกไปจริงหรือไม่ จึงทำให้ตนรู้ว่าถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกแล้ว จึงได้ไปแจ้งความไว้ที่ สภ.บ้านดู่ จ.เชียงราย และ วันนี้ได้เดินทางมารับเงินคืน 1.9 ล้านบาท ตนรู้สึกดีใจมาก ๆ เพราะนั่นคือทั้งหมดที่ตนเองมี และได้กล่าวขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกภาคส่วนที่ช่วยให้ตนได้เงินคืนในครั้งนี้.

โพสต์ข่าวแนะนำ

ตำรวจพิษณุโลกจับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ยึดเงินสดคืนผู้เสียหาย 1.9 ล้านบาท

สำนักงานหนังสือพิมพ์ทันใจนิวส์ ตำรวจพิษณุโลกจับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ยึดเงินสดคืนผู้เสียหาย 1.9 ล้านบาท ตำรวจภูธรเมืองพิษณุโลก แถลงผลการจับกุมแก๊...

ข่าวดัง ยอดนิยม คนสนใจ

ข่าวดังรายสัปดาห์ HOT NEWS