เมื่อวันที่ 5 มิ.ย.65 เวลา09.00น.นายศรีวรรณและนาเบญญาภา ยศปินตา เจ้าของร้านยิ่งเจริญพานิช และเป็นบิดา,มารดาของนายกิตติพงษ์ฯ
ได้นำนายกิตติพงษ์ ยศปืนตา อายุ 26 ปี บ้านเลขที่ 85/1 ม.4 ต.พิชัย อ.เมือง จ.ลำปาง (ลูกชาย)เข้าพบ พ.ต.ต.อมร ใจดี สว.(สอบสวน)
สภ.วังชิ้น จว.แพร่ เพื่อแจ้งว่า ได้รับแจ้งจากเพื่อนทางโชเซียลและเฟสบุ๊คว่า ได้ดูคลิปข่าวทาง สำนักข่าว.ฉบับหนึ่ง ซึ่งมีการจับกุมผู้ต้องหาเกี่ยวกับยาเสพติด ในพื้นที่สถานีตำรวจภูธรวังชิ้นฯ เมื่อวันที่ 4 มิ.ย.65 โดยปรากฏว่าภาพบัตรประชาชน(บัตรเก่า)ของผู้แจ้ง(นายกิตติพงษ์)ได้อยู่ในคลิปข่าวดังกล่าว มีข้อมูลชัดเจนนั้น
วันนี้ ทางผู้แจ้งได้มาแสดงตัวตนต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจแสดงความบริสุทธิ์ใจว่า ตามวัน เวลาที่เกิดเหตุดังกล่าว ผู้แจ้งไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง หรือ รู้เห็นเหตุการณ์ ที่ผู้ต้องหาได้กระทำความผิดยาเสพติดดังกล่าวแต่อย่างใด โดยบัตรประจำตัวประชาชน ที่ปรากฏในคลิปนั้น เป็นบัตรประชาชนที่ได้สูญหายไปหลายปีแล้ว และได้ไปแจ้งขอทำบัตรใหม่ ได้บัตรประชาชนมาใหม่แทนบัตรเก่าแล้ว
จากนั้น พนักงานสอบสวน จึงได้เรียกเจ้าหน้าที่ฯชุดจับกุม มาชี้แจงถึงที่มาของบัตรประจำตัวประชาชน(เก่า)ของผู้แจ้ง ซึ่งได้ตรวจพบในกระเป๋าบริเวณของบ้านพักผู้ต้องหา และมีการนำเสนอข่าวออกไป โดนอาจจะเกิดการเข้าใจผิด ทำให้มีคนที่รู้จักสอบถามผู้แจ้งเข้ามาเป็นจำนวนมาก และผู้แจ้งได้บอกไปว่าตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆทั้งสิ้น ไปก่อนหน้านี้แล้ว ทางผู้แจ้งมีความรู้สึกว่า ตนและครอบครัว ที่ประกอบธุรกิจค้าขายได้รับความเสียหายทางชื่อเสียง
พ.ต.ต.อมร ใจดี สวย.(สอบสวน)สภ.วังชิ้น ได้รับแจ้งความดังกล่าว และได้ให้ทุกฝ่ายชี้แจง ข้อเท็จจริงถึงเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว ทั้งนักข่าวประจำท้องถิ่น ที่นำเสนอข่าวออกไป จะไดนำไปแก้ไข นำเสนอข่าวที่ถูกต้อง ไปทุกช่องทางข่าวที่ออกไป หากมีผู้ใดนำข้อมูลข่าวสารชุดเก่า นำไปเผยแพร่ ซึ่งอาจทำให้เกิดความเสียหาย ขึ้นในภายภาคหน้า ทางผู้แจ้ง จะได้ดำเนินการแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษ ฟ้องร้อง เรียกค่าเสียหายตามกฏหมายต่อไป
ต่อมาเมื่อเวลา 14 .00น.วัน้ดียวกันนี้ ทางนายนิรันทร์ สายมัน ปลัดชำนาญการ อำเภอวังชิ้น,นายอนุรักษ์ แก้ววงค์ ปลัดชำนาญการอำเภอวังชิ้น ได้เป็นตัวแทนเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมพร้อม ผู้สื่อข่าว นำกระเช้าไปมอบให้กับครอบครัวของผู้แจ้ง เพื่อขอโทษความผิดพลาดดังกล่าว มีนางเบญญาภา ยศปินตา เป็นตัวแทนรับมอบ ซึ่งนางเบญญาภาฯกล่าวขอบคุณและดีใจที่มีเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองชั้นผู้ใหญ่ได้นำกระเช้ามามอบให้พร้อมคำขอโทษ ที่จริงไม่ต้องถึงขั้นนี้ก็ได้ เพราะเข้าใจ พอใจในการชี้แจงของเจ้าหน้าที่และผู้สื่อข่าวเป็นอย่างดี คนเคยทำงานร่วมกันมาและรู้จักกันอยู่แล้ว ขอให้ได้แจ้งและรู้ความจริงและแก้ข่าวให้เท่านี้ก็พอใจแล้ว เพราะครอบครัวของตนทำธุรกิจค้าขาย มีคนรู้จักมาก ทำให้ลูกค้าหรือคนอื่นเข้าใจผิดได้ เข้าใจถึงการทำงานของเจ้าหน้าที่ทุกคนและทุกฝ่าย การทำงานย่อมมีความผิดพลาด และขอเป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ทุกคนทำหน้าที่ด้วยความขยัน,อดทน,เข้มแข็ง ในการป้องกันปราบปรามยาเสพติดในพื้นที่ให้สิ้นซากต่อไป
ร.ต.อ ธนาเดช ดอกจือ หัวหน้าศูนย์ข่าวหนังสือพิมพ์ทันใจนิวส์จังหวัดแพร่
สนับสนุนโดย
