เมื่อวันที่ ๑๐ มิถุนายน ๒๕๖๕ เวลา๑๓.๐๐ น.ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากนางการเกด บุญศรี เจ้าของบ้านว่า
นายกเทศมนตรี เทศบาลตำบลทุ่งโฮ่ง อำเภอเมือง จังหวัดแพร่ ได้มีโครงการก่อสร้างรั้วคอนกรีตเสริมเหล็ก ซ้อนทับและปิดกั้นประตูเข้า-ออก รั้วของตน โดยไม่ยอมฟังเสียงคัดค้านของตน ที่ได้ร้องขอ เพื่อเจรจาก่อนที่จะทำการก่อสร้าง ถึง ๓ ครั้ง แต่ไม่เป็นผล วันที่ ๕ พฤษภาคม ๒๕๖๕ จึงได้ทำหนังสือถึงศูนย์ดำรงธรรมมาตรวจสอบ แล้วได้รับหนังสือชี้แจงจากนายกเทศมนตรีฯโดยอ้างเอาคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีปี พ.ศ.๒๕๒๒ มาอ้างว่าเพื่อความปลอดภัยของทางราชการ ซึ่งสนามกีฬาเป็นสาธารณะ ขอให้ผู้สื่อข่าวเข้าไปตรวจสอบดูว่าเป็นจริงอย่างที่ได้แจ้งหรือไม่
ต่อมาผู้สื่อข่าวจึงเข้าไปดูตามที่นางการเกดแจ้งและพาผู้สื่อข่าวดู ปรากฎว่า ทางเทศบาลได้สร้างรั้วซ้อนรั้วของสนามกีฬาจริง จากทิศเหนือ ถึงทิศใต้มีความยาวประมาณ ๖๕เมตร ห่างจากรั้วของนางการเกดฯ๑๔-๑๖ ซ.ม. ใช้งบประมาณแผ่นดินที่เป็นภาษีของพี่น้องประชาชนมาสร้างรั้วที่ไม่ควรสร้าง สิ้นเปลืองโดยใช่เหตุ นางการเกดเล่าต่อไปว่า บ้านและรั้วของตนนี้ได้ก่อสร้างมา ๒๒ ปีแล้ว ก่อนที่จะมีการสร้างสนามกีฬาเสียอีก ไม่เคยมีปัญหาเรื่องพิพาทกับผู้ใดเลย อยู่อย่างมีสงบสันติ จนตนเองได้มาตั้งสถานีวิทยุฯขึ้นมาเพื่อบริการท้องถิ่น และเป็นแหล่งเรียนรู้ค้นคว้าศึกษาหาข้อมูลของเด็กและเยาวชนในวันเสาร์-อาทิตย์อยู่เสมอ เพราะมีบริการให้เด็กและเยาวชนมาใช้ Wifi ฟรี เคยใช้ประตูนี้เดินเข้า-ออกสะดวกสบาย พอนายกฯมาสร้างรั้วปิดกั้นประตูเข้า-ออก ทำให้เด็กได้รับความลำบากต้องปีนป่ายขึ้นรั้ว หากเด็กเกิดพลัดตกลงมาแข้งขาหัก จะทำยังไงใครรับผิดชอบ ,การสร้างรั้วนี้ทางเทศบาลก็ไม่เคยแจ้งว่ามีโครงการที่จะสร้างรั้วที่นี่แล้วได้ประชาคมหรือยัง ถ้าอ้างว่าสร้างเพื่อความปลอดภัยทำไมประตูสนามกีฬา ทั้งทิศเหนือทิศใต้ ยังมีคนละวัวควายเดินเข้า ออกได้สนามทางทิศตะวันออก รั้วยังไม่มี มีแต่ชาวบ้าเอาวัวมาเลี้ยง ที่นี่ทำไมไม่สร้างงตนข้องใจ หมายความว่าอย่างไร ดังนั้น ตนจึงขอเรียกร้องขอความเป็นธรรม ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มาตรวจสอบด้วยว่า นายกทำถูกแล้วหือ ทำไปโดยมุทะลุดุดัน จำเป็นด้วยหรือ และเมื่อวันที่ ๒๗ มิถุนายน ๒๕๖๕ ถึงนายศรัณ อภิสิทธิเดช ผอ.ป.ป.ช.จว.แพร่และ สตง.ตามลำดับ
จนกว่าจะได้รับความยุติธรรม
ต่อมาเมื่อวันที่ ๑๓ มิถุนายน ๖๕ เวลา ๑๐.๓๐ น.นายอาทิตย์ ขวัญเมือง ผู้ประสานงานเครือข่ายประชาธิปไตยพร้อมกับพวกเป็นตัวแทนกลุ่มดังกล่าวได้ยื่นหนังสือสอบถามไปยังนายกเทศมนตรีเทศบาล ๓ ข้อ ดังนี้
๑.พื้นที่ดังกล่าว มีแนวรั้วคอนกรีตที่ได้มาตราฐานสร้างไว้ก่อนหน้านี้แล้ว เหตุใด เทศบาลจึงสิ้นเปลืองมาใช้งบประมาณที่เป็นภาษีราษฎรมาสร้างรั้วปิดกั้นประตูชาวบ้านเข้าออกไม่ได้
๒.ยังมีแนวเขตรั้วที่เทศบาลยังไม่ทำรั้ว ทำไม่ไม่สร้างรั้วตรงนี้ ทำไมต้องมาสร้างตรงนี้่
๓.ตามที่นายกเทศมนตรีฯได้อ้างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการรักษาความปลอดภัยแห่งชาติ พ.ศ.๒๕๒๒ เป็นการอ้างโดยชอบธรรมแล้วหรือ ขอให้ตอบให้ทราบโดยเร็ว หากไม่ชัดเจนจะยกระดับการเคลื่อนไหวจนถึงที่สุด
ร.ต.อ.ธนาเดช ดอกจือ หัวหน้าศูนย์ข่าวหนังสือพิมพ์ทันใจนิวส์จังหวัดแพร่
สนับสนุนโดย
