ชุมพร-กลุ่มชาวบ้านจองขายโควต้าขายกล้ากระท่อม ถูกอดีตนักการเมืองดัง ผิดสัญญาทำสูญเงินรายละนับแสนบาท บุกร้องผู้ว่าฯชุมพร เผยข้าราชการยังโดน
จากกรณีที่มีชาวบ้านกลุ่มปลูกพืชกระท่อมนิคมท่าแซะ จำนวน 17 คน เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.ท่าแซะ จ.ชุมพร ให้ดำเนินคดีกับอดีตนักการเมืองดัง ที่ได้ทำสัญญาซื้อขายต้นพืชกระท่อมต้นละ 30 บาท แต่ต้องเก็บเงินค่ามันจำขายตามโครงการดังกล่าวก่อนต้นละ 1 บาท โดยชาวบ้านในกลุ่มแต่ละรายที่เข้าร่วมโครงการได้เสียเงินค่าจองขายต้นกล้ากระท่อมรายละ 10000-100000 ต้น รวม 17 คน แต่เมื่อครบกำหนดบุคคลดังกล่าวไม่ยอมมารับต้นกล้าพืชกระท่อม จนเวลาล่วงเลยไปนานเกือบ 2 เดือน กลับบอกว่าบริษัทเครื่องดื่มที่รับทำโควต้ามีปัญหาเรื่องการส่งออกและจะคืนเงินค่ามัดจำจองขายโควต้าต้นละ 1 บาทให้กับสมาชิกที่เข้าร่วมทำสัญญาและจะจ่ายค่าเลี้ยงดูให้อีกต้นละ 1 บาทเป็นเวลา 1 เดือน แต่ก็ไม่จ่ายผลัดผ่อนเรื่องมา ทำให้สมาชิกกลุ่มนี้ได้รับความเสียหายจากการลงทุนเพาะต้นกล้าพืชกระท่อมรวมกันทั้งหมด จำนวน 430,000 ต้น คิดเป็นเงิน 12,9000,000 บาท โดยเริ่มเพาะต้นกล้ามาตั้งแต่เดือน ก.พ.65 ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงดูจำนวนมาก บางคนถึงกับนอนร้องให้เพราะเป็นหนี้สินจากกาลงทุนเพาะต้นกล้าดังกล่าว
วันที่ 19 ก.ค.65 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีดังกล่าว นางเสาวนีย์ ช่วยชูหนู แกนนำกลุ่มปลูกพืชกระท่อมนิคมท่าแซะ เปิดเผยว่าเมื่อวานหลังจากที่ทางกลุ่มได้ไปแจ้งความร้องทุกข์ที่ สภ.ท่าแซะแล้ว จากนั้นช่วงบ่ายวันเดียวกันทางกลุ่มได้เดินทางไปยื่นหนังสือร้องเรียนขอความเป็นธรรมพร้อมหลักฐานและแนบรายชื่อผู้ได้รับความเสียหายทั้งหมดต่อผู้ว่าราชการจังหวัด โดยมี นายสมพร ปัจฉิมเพ็ชร รอง ผวจ.ชุมพร และเจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด ลงมารับเรื่องร้องทุกข์ขอความเป็นธรรม เนื่องจากเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรมเพราะคู่กรณีเป็นบุคคลมีชื่อเสียง
นางเสาวนีย์กล่าวว่าหลังจากนายสมพร ปัจฉิมเพชร รอง ผวจ.ชุมพร และหน่วยงานเกี่วข้องลงมารับเรื่องที่หน้าศาลกลางจังหวัดแล้ว ได้บอกกับกลุ่มผู้เสียหายว่าเรื่องนี้ได้มีกลุ่มบุคคลที่อยู่ในพื้นที่ตำบลบ้านนา อ.เมืองชุมพร ได้รับความเสียหายลักษณะเดียวกันได้มาร้องศูนย์ดำรงธรรมไว้แล้วเช่นกัน ซึ่งจะได้เรียกประชุมหน่วยงานเกี่ยวข้องทั้งหมด ทั้งตำรวจ พนักงานอัยการ เพื่อตรวจดูหลักฐานทั้งหมดว่าพฤติกรรมดังกล่าวมีความผิดเกี่ยวกับอาญาข้อใดบ้างหรือไม่อย่างไร แล้วจะแจ้งให้ผู้ร้องทราบอีกครั้ง เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย
นางเสาวนีย์กล่าวว่าช่วงที่ทางกลุ่มไปร้องเรียนต่อผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร ได้มีข้าราชการท่านหนึ่งเดินมาบอกกับตนว่าเขาก็ได้รับความเสียหายจากโครงการเสียเงินมัดจำขายต้นกล้ากระท่อมเหมือนกัน และทราบว่ายังมีอีกหลายคน แต่อย่างไรก็ตามตอนนี้ตนและทางกลุ่มรวมถึงผู้เสียหายคนอื่น ๆกำลังรวบรวมหลักฐานเพิ่มเติม ทั้งคลิบเสียงพูดคุยเกี่ยวกับโครงการ ข้อความแชท และเอกสารอื่นที่รวบรวมได้ทั้งหมด ไปมอบเพิ่มเติมให้กับพนักงานสอบสวนและผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร
“ พวกตนได้ติดต่อทวงถามหลายครั้งบุคคลดังกล่าวผัดผ่อนผิดสัญญาเรื่อยมา ขณะที่ค่าใช้จ่ายเลี้ยงดูต้นกล้ากระท่อมมีทุกวัน ความเสียหายก็มากขึ้น เมื่อพวกตนขอดูสัญญาที่บุคคลมีชื่อเสียงคนดังกล่าวอ้างว่าได้ทำไว้กับบริษัทเครื่องดื่มใหญ่แห่งหนึ่งที่จะมารับซื้อก็ไม่ให้ดูกลับบอกว่าคุณมีสิทธิ์อะไรที่จะมาดูสัญญาดังกล่าวเป็นเรื่องของเขา ทำให้พวกตนรู้สึกว่าไม่ชอบมาพากลเกี่ยวกับโครงการดังกล่าว” นางเสาวนีย์กล่าว.///เอกชนะ นวนละมัย ข่าวภูมิภาคจ.ชุมพร
สนับสนุนโดย
