เจ้าหน้าที่ป่าไม้ จ.กระบี่ สนธิกำลัง ตำรวจ ฝ่ายปกครอง 400 นาย เข้าสลายม็อบเรียกร้องที่ดินทำกิน ที่อาศัยอยู่ในสวนปาล์มเอกชนหมดอายุสัมปทาน พร้อมรื้อทำลายที่พัก
.
วันนี้ (5 ต.ค.) เจ้าหน้าที่ป่าไม้ จ.กระบี่ สนธิกำลังเจ้าหน้าที่กองร้อยควบคุมฝูงชน ตำรวจภูธรจังหวัดกระบี่ ฝ่ายปกครอง ฝ่ายความมั่นคง จ.กระบี่ รวมกว่า 400 นาย พร้อมรถแบ็กโฮ เข้าผลักดันให้ชาวบ้านกลุ่มเรียกร้องที่ดินทำกินออกจากพื้นที่สวนปาล์มน้ำมันที่หมดอายุสัมปทาน ของบริษัทยูนิวานิช จำกัด หมู่ 9 ต.ปลายพระยา อ.ปลายพระยา จ.กระบี่ เป็นพื้นที่ที่กลุ่มเรียกร้องที่ดินทำกิน รวม จำนวนกว่า 100 คน เข้าชุมนุมครอบครอง สร้างที่พัก จำนวน 50 หลัง ยึดพื้นที่มาตั้งแต่ ปี 2557 เพื่อเรียกร้องที่ดินทำกิน โดยให้รัฐนำพื้นที่หมดอายุสัมปทานในจังหวัดกระบี่ รวม 14 แปลง พื้นที่ประมาณ 72,000 ไร่ มาจัดสรรให้คนจน ตามมติ ครม. พ.ศ.2547
.
ขณะเจ้าหน้าที่เข้าพื้นที่กลุ่มชาวบ้านต่างนั่งพับเพียบก้มกราบ และบางคนกอดกันร้องไห้ เพื่อขอร้องไม่ให้ เจ้าหน้าที่ผลักดันออกจากพื้นที่ แต่ไม่เป็นผล เจ้าหน้าที่แจ้งให้รื้อบ้านพัก ขนย้ายทรัพย์สินออกจากพื้นที่ เนื่องจากเป็นการบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าคลองพระยา อ้างว่าที่ผ่านมา ได้มีการก่อเหตุรุนแรง สะสมกำลังอาวุธและยาเสพติด เจ้าหน้าที่เข้าพื้นที่เพื่อตรวจค้นพื้นที่เพิงพักไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย และทำประวัติชาวบ้านทุกคนไว้เป็นหลักฐาน พร้อมกับใช้รถแบ็กโฮรื้อทำลายบ้านพัก
.
น.ส.ชนิดา (ขอสงวนนามสกุล) ชาวบ้านเปิดเผยว่า ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ไม่ได้มีการแจ้งให้ชาวบ้านทราบล่วงหน้าว่าจะผลักดันให้ออกจากพื้นที่ ทำให้กลุ่มชาวบ้านไม่ได้เตรียมตัวขนย้ายทรัพย์สิน
.
หลังจากนี้ กลุ่มชาวบ้านจะย้ายออกจากพื้นที่ ไปปักหลักสร้างที่พักบริเวณเกาะกลางถนนสายเซาเทิร์นซีบอร์ดชั่วคราว เนื่องจากทุกคนไม่มีที่อยู่อาศัย เป็นคนจน ส่งผลกระทบเป็นอย่างมาก เนื่องจากบางคนมีลูกหลานเป็นเด็กนักเรียน เรียนหนังสืออยู่ในพื้นที่
.
ขณะที่นางบุปผาทิพย์ กล่าวทั้งน้ำตาว่า ได้อาศัยอยู่ในพื้นที่มานานหลายปี เพื่อเรียกร้องให้รัฐจัดสรรที่ดินทำกินให้ แต่ที่ผ่านมา มีหน่วยงานต่างๆ ลงพื้นที่รับปากว่าจะช่วยเหลือชาวบ้าน สร้างอาชีพให้ หางานให้ แต่ไม่เคยได้รับการช่วยเหลือแต่อย่างใด หากให้ออกจากพื้นที่จะไม่ที่พักอาศัย เรียกร้องหน่วยงานภาครัฐให้การช่วยเหลือด้วย
.
หากให้กลุ่มชาวบ้านออกจากพื้นที่ หลังจากนี้ จะให้ชาวบ้านไปอยู่ที่ไหน เพราะทุกคนไม่มีที่ อยู่อาศัย ไม่มีที่ไป ส่งผลกระทบต่อลูกหลานที่เรียนหนังสือตามโรงเรียนต่างๆ ในพื้นที่ สำหรับปัญหาการต่อสู้เรียกร้องที่ดินทำกิน ในพื้นที่จังหวัดกระบี่ โดยให้รัฐนำพื้นที่สวนปาล์มน้ำมันที่หมดอายุสัปทาน รวม 14 แปลง พื้นที่กว่า 72,000 ไร่ มาจัดสรรให้คนจน ตาม มติ ครม. 2546 ผ่านมากว่า 10 ปี ปัญหาไม่ได้รับการแก้ไข
.
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ขณะที่เจ้าหน้าที่นำกำลังเข้ารื้อถอนทางชาวบ้านได้นั่งรวมตัวกัน พร้อมก้มกราบและวิงวอนเจ้าหน้าที่ขอให้หยุดการสลายและรื้อถอนที่พัก แต่ไม่เป็นผล ทำให้กลุ่มชาวบ้านบางคนถึงกับต้องกอดกันร้องไห้เนื่องจากไม่มีที่ไป
.
ขณะที่นายสมใจ นวลนุ่น แกนนำกลุ่มชาวบ้าน กล่าวว่า การเจ้าดำเนินการทางเจ้าหน้าที่ ไม่ได้แจ้งให้ชาวบ้านทราบ จู่ๆก็นำกำลังเจ้าหน้าที่เข้าสลายชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในสวนปาล์มพร้อมกับทำลายที่พักจนหมดสิ้นซึ่งขณะนี้ชาวบ้านได้ทยอยกันออกจากพื้นที่และไปรวมตัวกันอยู่ริมถนนสายเซาเทิร์นซีบอร์ดส่งบริเวณหน้าสวนปาล์ม การกระทำของเจ้าหน้าที่ในครั้งนี้ยอมรับว่าทำเกินกว่าเหตุจริงๆชาวบ้านรับไม่ได้
///ภิญโญ วงศ์สุวรรณ หัวหน้าผู้สื่อข่าวช่างภาพส่วนกลางหนังสือพิมพ์ทันใจนิวส์
สนับสนุนโดย
