สำนักงานหนังสือพิมพ์ทันใจนิวส์

ปัจจุบันมีการก่ออาชญากรรมสะเทือนขวัญที่มีการใช้อาวุธปืนในการกระทำความผิดอยู่บ่อยครั้ง สร้างความสูญเสียแก่ชีวิต ทรัพย์สิน และความหวาดกลัวภัยของประชาชนมากยิ่งขึ้น ส่งผลกระทบต่อสังคมและความสงบเรียบร้อยของประชาชนโดยรวม

 พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จึงบัญชาให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติเร่งรัดปราบปราม ความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืน อาวุธสงคราม วัตถุระเบิด และเครื่องกระสุนปืน ความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และบุคคลตามหมายจับ ให้บังเกิดผลการปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรมและมีประสิทธิภาพ เพื่อให้ประชาชนมีความปลอดภัยในชีวิต ทรัพย์สิน และประเทศชาติมีความสงบเรียบร้อย

           วันที่ 30 ตุลาคม 2565  เวลา 10.00 น. พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร.เป็นประธานการแถลงข่าวผลการระดมกวาดล้างอาชญากรรมความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืน อาวุธสงคราม วัตถุระเบิด และเครื่องกระสุนปืน ความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และบุคคลตามหมายจับ ระหว่างวันที่ 10 ต.ค. – 8 พ.ย.65 (รวม 30 วัน) ซึ่งการแถลงผลการปฏิบัติในครั้งนี้ เป็นการแถลงผลการปฏิบัติในห้วงระหว่างวันที่ 10 – 28 ต.ค.65  โดยมี พล.ต.อ.ชินภัทร สารสิน รอง ผบ.ตร. , พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย ผบช.ภ.5, พล.ต.ต.เฉลิมพล จินตรัตน์ รอง ผบช.ภ.5 , พล.ต.ต.พฤทธิพงษ์ ประยูรศิริ รอง ผบช.ภ.5, พล.ต.ต.วีรชน บุญทวี รอง ผบช.ภ.5 , ผบก.ภ.จว.ในสังกัด ภ.5 ,ผบก.สส.ภ.5 ,คุณวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ปปส., และ หน่วยในสังกัดตำรวจภูธรภาค 5 เข้าร่วมแถลงข่าว โดยมีผลการปฏิบัติดังนี้.

การกวาดล้างเครือข่ายยาเสพติด 

การดำเนินการกับเครือข่าย นายอาก๋วย (สงวนนามสกุล) และการสืบสวนขยายผลตรวจยึดอายัดทรัพย์สิน รวมมูลค่าประมาณ 55 ล้านบาท 

สืบเนื่องจาก เมื่อ 24 มีนาคม 2565 บก.สส.ภ.5, ร่วมกับหน่วยเกี่ยวข้อง จับกุมนายอาก๋วยฯ ผู้ต้องหากับพวกรวม 7 คน ของกลางยาบ้า 2 ล้านเม็ด รถยนต์ 3 คัน, รถจักรยานยนต์ 2 คัน, อาวุธปืนพกสั้น 2 กระบอก พร้อมกระสุนปืน นำส่ง สภ.บ้านดู่ อ.เมือง จว.เชียงราย ดำเนินคดีตามกฎหมาย ขณะจับกุมได้ขยายตรวจยึดอายัดทรัพย์สินเป็นบ้านพร้อมที่ดิน จำนวน 6 หลัง, รถยนต์ 7 คัน รถจักรยานยนต์ 4 คัน, ทองรูปพรรณ, เงินสด และอายัดเงินในบัญชี รวมมูลค่าประมาณ 40 ล้านบาท

 

ต่อมาเมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2565 บก.สส.ภ.5 ร่วมกับ สำนักงาน ป.ป.ส.ภาค 5 ทำการสืบสวนขยายผล ขออนุมัติออกหมายจับผู้ร่วมกระทำความผิดต่อศาลจังหวัดเชียงราย และได้รับอนุมัติ จำนวน 2 ราย คือ 

1. นายนัฐวุฒิ (สงวนนามสกุล) อายุ 40 ปี ที่อยู่ ต.โสธร อ.เมืองฉะเชิงเทรา จว.ฉะเชิงเทรา 

2. นายสุริยา (สงวนนามสกุล) อายุ 24 ปี ที่อยู่ ต.บ่อบี้ย อ.บ้านโคก จ.อุตรดิตถ์  

ในความผิดฐานสมคบกันกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติดฯ และได้ดำเนินการสืบสวน ขยายผลหาทรัพย์สินของผู้ต้องหาตามหมายจับ ร่วมกับสำนักงาน ป.ป.ส. มาอย่างต่อเนื่อง และสามารถจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับทั้ง 2 ราย ขยายผลตรวจยึดอายัดทรัพย์สิน 5 จุด โดยเป็นพื้นที่ อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา 3 จุด พื้นที่ อ.เชียงคำ จ.พะเยา 1 จุด และ กรุงเทพมหานคร 1 จุด สามารถตรวจยึดอายัดทรัพย์สิน เป็นบ้านพัก 2 หลัง รถยนต์ 3 คัน, ทองรูปพรรณ, เงินสด อายัดเงินในบัญชี รวมมูลค่าทรัพย์สินประมาณ 15 ล้านบาท สรุปการดำเนินการเครือข่ายนายอาก๋วย ฯ สามารถจับกุมผู้ต้องหารวม 9 ราย ขยายผลตรวจยึดอายัดทรัพย์สินมูลค่าประมาณ 55 ล้านบาท 

ในคดีเกี่ยวกับการสืบสวนจับกุมอาวุธปืนออนไลน์ 

กองบังคับการสืบสวนตำรวจภูธรภาค 5 สืบสวนทราบว่า นายวีรยุทธ (สงวนนามสกุล)ภูมิลำเนาอยู่ที่ ต.บ้านกาด อ.แม่วาง จว.เชียงใหม่ เป็นผู้จำหน่ายอุปกรณ์ปืน บีบีกัน และได้ผลิต/แปลง อาวุธปืน บีบีกัน ใส่ลำกล้องปืน 9 mm. ให้เป็นอาวุธปืนที่สามารถยิงกระสุนจริงได้ ผ่านทางแอพพลิเคชั่น ลาซาด้า มีช่องทางติดต่อผ่านไลน์ Line Official “@612mrgnd” และใน Facebook เพจของ CHAROEN AIRSOFT 4289 

ต่อมาในวันที่ 20 ตุลาคม 2565 ได้นำหมายค้น ไปตรวจค้นบ้านของนายวีรยุทธฯ ผลการตรวจค้นพบ อุปกรณ์ชิ้นส่วนไว้ประกอบเป็นอาวุธปืน จำนวนกว่า 175 ชิ้น เครื่องกระสุนและปลอกกระสุน 54 นัด พร้อมอุปกรณ์เครื่องมือไว้ใช้ในการผลิต โดยผู้ต้องหาเริ่มสนใจการทำอาวุธปืน จึงได้เริ่มศึกษาและลงมือทำลำกล้องปืนด้วยตนเองอย่างจริงจัง จะสั่งซื้อเหล็กท่อนขนาดต่างๆ ผ่านทางระบบออนไลน์ และจะนำมาตัดเป็นขนาดความยาวที่ต้องการ 4 - 5 นิ้ว และจะส่งไปกลึงที่เพื่อทำลำกล้องปืนด้านนอก ที่ โรงกลึงแห่งหนึ่งตั้งอยู่ อ.พระสมุทรเจดีย์ จว.สมุทรปราการ โดยลอกแบบมาจากปืนจำลอง (Blank gun) เมื่อได้รับเหล็กที่กลึงกลับมาแล้วก็จะนำมาทำเกลียวในลำกล้อง โดยใช้เครื่องอัดเกลียวและขัดให้ขึ้นเงาโดยใช้เครื่องมือที่ประดิษฐ์ขึ้นเอง แล้วจะประกาศจำหน่ายทางออนไลน์ให้กับผู้สนใจ จึงจับกุมผู้ต้องหาไว้ดำเนินคดีในฐานความผิด “ทำและจำหน่ายอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ” ส่งพนักงานสอบสวน สภ.แม่วาง ดำเนินคดีตามกฎหมาย 

จากการสืบสวนขยายผลพบว่าผู้ต้องหาได้จำหน่ายอุปกรณ์เกี่ยวกับอาวุธปืน ทางออนไลน์ จำนวน 204 แห่ง โดยแยกเป็น พื้นที่ นครบาล 19 แห่ง, ภาค 1 22 แห่ง, ภาค 2 18 แห่ง, ภาค 3 25 แห่งภาค 4 47 แห่ง, ภาค 5 11 แห่ง, ภาค 6 14 แห่ง, ภาค 7 19 แห่ง, ภาค 8 22 แห่ง, ภาค 9 22 แห่ง ซึ่งได้ประสานพื้นที่ดำเนินการสืบสวนจับกุมแล้ว 

ในส่วนของพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 5 ได้สืบสวนขยายผลสามารถจับกุมผู้กระทำความผิดพร้อมตรวจยึดอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืนได้เพิ่มเติมอีก จำนวน 2 คดี คือที่ อ.เมืองลำปาง จ.ลำปาง และ อ.สอง จ.แพร่ 

ผลการระดมกวาดล้างอาชญากรรมอาวุธปืน และยาเสพติด ระหว่างวันที่ 10-28  ตุลาคม 2565  มีดังนี้ 

1. การป้องกันปราบปรามอาชญากรรม ความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืน อาวุธสงคราม วัตถุระเบิด และเครื่องกระสุนปืน 

       1.1 ผลดำเนินการ

1.1.1 อาวุธสงคราม                         1 คดี   

1.1.2 อาวุธปืนธรรมดา (ไม่มีทะเบียน)  873 คดี   

1.1.3 อาวุธปืนธรรมดา (มีทะเบียน)      52 คดี   

1.1.4 วัตถุระเบิด             402 คดี   

1.1.5 เครื่องกระสุนปืน             634 คดี   

       1.2 รายการของกลาง

1.2.1 อาวุธสงคราม(ดัดแปลง)         1 รายการ (ปืนยาวกึ่งอัตโนมัติขนาด 5.56 )

1.2.2 อาวุธปืนธรรมดา (ไม่มีทะเบียน)   945 รายการ

1.2.3 อาวุธปืนธรรมดา (มีทะเบียน)      57 รายการ

1.2.4 วัตถุระเบิด (ประทัดยักษ์) 2,168 นัด

1.2.5 เครื่องกระสุนปืน   7,222 นัด

2. การป้องกันปราบปรามอาชญากรรม ความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด

  2.1 ผลดำเนินการ

2.1.1 ผลิต             1 คดี   

2.1.2 นำเข้า             1 คดี   

2.1.3 ส่งออก             0 คดี   

2.1.4 จำหน่าย         111 คดี   

2.1.5 ครอบครองเพื่อจำหน่าย  170 คดี   

2.1.6 ครอบครอง 670 คดี   

2.1.7 เสพยาเสพติด       1,439 คดี   

  2.2 รายการของกลาง

2.1 ยาบ้า 100,276 เม็ด

2.2.2 ฝิ่น   318.33 กรัม

2.2.3 เอโรอีน   353.49 กรัม

2.2.4 ไอซ์     13.24 กรัม

2.2.5 อีหรือเอ็กตาซี          2 เม็ด

2.2.6 คีตามีนหรือเคตามีน      61.84 กรัม

2.2.7 มอฟีน        1.21 กรัม

3.จับกุมบุคคลตามหมายจับ    544 หมาย   508 คน

4.จำนวนผู้เสพสมัครใจเข้าบำบัด   102  คน 

และในเดียวกันนี้ ได้มีปฏิบัติระดมกวาดล้างเป้าหมายยาเสพติด โดยเป็นการปฏิบัติงานร่วมกันระหว่าง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตำรวจภูธรภาค 5 และสำนักงาน ปปส.ภาค 5  เป็นการปิดล้อมตรวจค้นตามข้อร้องเรียน 1386 ประจำปี 2566 แผนการปิดล้อมตรวจค้น (Quick Win) เพื่อค้นหาผู้เสพ ผู้ค้า จับผู้ต้องหาตามหมายจับ ยึดทรัพย์สิน จำนวน 38 เป้าหมาย ซึ่งได้ดำเนินการทั้ง 8 จังหวัดภาคเหนือ ประกอบด้วย เชียงราย 10 เป้าหมาย เชียงใหม่ 5 เป้าหมาย ลำพูน 5 เป้าหมาย ลำปาง 4 เป้าหมาย แพร่ 11 เป้าหมาย และ น่าน 3 เป้าหมาย โดยผลการปฏิบัติ สามารถจับกุมการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดได้ 22 คดี ได้ตัวผู้ต้องหาจำนวน 19 คน ของกลาง ยาบ้าจำนวน 3,803 เม็ด เฮโรอีน จำนวน 75 กรัม ตรวจยึดทรัพย์สิน รถยนต์ 2 คัน ราคา 180,000 บาท รถจักรยานยนต์ 2 คัน ราคา 50,000 บาท และ ทรัพย์สินอื่น เช่น สร้อยคอทองคำ,เงินสด รวม 741,000 บาท 

พล.ต.อ.ดำรงคักดิ์ กิตติประภัสร์  ผบ.ตร. กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีความห่วงใยในการแก้ไขปัญหาอาวุธปืนและยาเสพติดที่เป็นรูปธรรม  โดย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ บูรณาการร่วมกับทุกภาคส่วนร่วมแก้ปัญหา อย่างจริงจังและต่อเนื่อง เพื่อให้การปฏิบัติเป็นรูปธรรมชัดเจน สร้างความเชื่อมั่นให้พี่น้องประชาชน จึงได้กำหนดให้มีการระดมกวาดล้างอาชญากรรมทั่วประเทศ ซึ่งตำรวจภูธรภาค 5 ได้ดำเนินการตามนโยบาย มีผลการปฏิบัติเป็นที่น่าพอใจ   ได้สั่งการเพิ่มเติมเน้นย้ำในห้วงการระดมที่เหลือ ได้เพิ่มความเข้มในการดำเนินการ และเพิ่มมาตรการป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดออนไลน์ การสกัดกั้นยาเสพติดจากแนวชายแดน การตั้งจุดตรวจ จุดสกัด ตรวจค้นบุคคลยานพาหนะ การสืบสวนขยายผลไปยังเครือข่ายหรือขบวนการที่กระทำความผิด  ทั้งนี้ขอความร่วมมือประชาชนในการแจ้งข้อมูล เบาะแส แจ้งข่าวอาชญากรรม ให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตลอดเวลา ทางหมายเลขโทรศัพท์ 191 หรือ 1599 โดยทุกข้อมูลจะดำเนินการตรวจสอบอย่างจริงจัง

พร้อมกันนี้ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. พร้อมคณะได้ไปตรวจเยี่ยมโครงการชุมชุมยั่งยืน ซึ่งเป็นโครงการในการแก้ไขปัญหายาเสพติด ของสถานีตำรวจภูธรเวียงชัย อ.เวียงชัย จว.เชียงราย โดยพบปะ มอบกำลังใจ มอบของขวัญและเยี่ยมประชาชนที่เข้าร่วมโครงการ ณ วัดราษฏร์ชุมพล ม.4 ต.บ้านด้าย อ.เวียงชัย จว.เชียงราย 

 

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และตำรวจภูธรภาค 5 ขอความร่วมมือมายังพี่น้องประชาชน เพื่อร่วมกันสอดส่องดูแลบุตรหลาน บุคคลใกล้ชิด หรือบุคคลที่มีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด,อาวุธปืน,อาวุธสงคราม,วัตถุระเบิด,และเครื่องกระสุน โดยสามารถแจ้งข้อมูลผ่านสายด่วน ยาเสพติด 1599, สายด่วน 191,line@inthanon1(ผบช.ภ.5) ในการดำเนินการปราบปราม จับกุม ดำเนินคดีผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด เพื่อสร้างความเชื่อมั่น ในความปลอดภัยและสร้างความอุ่นใจในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน โดยรวม

สนับสนุนโดย

 รายงานข่าว