"ดร.ณัฐวุฒิ"นักกฎหมายมหาชน ฟาดหนัก กสทช. ปล่อยให้ตำแหน่งเลขาธิการ กสทช.” รักษาการเนิ่นนาน สังคมเคลือบแคลงสงสัยหนัก ทำให้เสียหายต่อประเทศชาติ คนไทยขาดโอกาสเข้าถึงเกมฟุตบอลโลก ชี้!ขาดมืออาชีพ ทำให้ขาดประสิทธิภาพในการบริหาร กสทช. มีผลประโยชน์มหาศาลแอบแฝงหรือไม่
เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่มีมติเอกฉันท์ กสทช. ทวงคืน 600 ล้านจาก กกท. กรณีถ่ายทอดฟุตบอลโลก และ กสทช.ฟอร์มทีมรับ“โทรคมฯ”ยุคใหม่ คาดอีก 3 ปีมูลค่าตลาดพุ่ง 877 ล้านดอลลาร์ เตรียมตั้งคณะกรรมการดูแลธุรกิจโอทีทีเต็มตัว หลังเทรนด์เทคโนโลยีวิ่งไปสู่ตลาดใหม่ ระบุเพื่อให้ผู้ประกอบการรับไลเซ่นไม่ถูกเอาเปรียบทั้งเรื่องบำรุงรักษาโครงข่าย-ภาษี..” ในประเด็นดังกล่าวผู้สื่อข่าวได้สัมภาษณ์ ปรมาจารย์ทางกฎหมายมหาชนและผู้เชี่ยวชาญรัฐธรรมนูญคนดังอย่าง ดร.ณัฐวุฒิ วงศ์เนียม หรือ “ดร.ณัฎฐ์” ได้ให้ความเห็นเพื่อเป็นความรู้ทางกฎหมายแก่ประชาชน อีกแง่มุมหนึ่ง
กสทช.เป็นองค์กรของรัฐที่เป็นอิสระ จัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ.2553 เป็นกฎหมายที่ตราขึ้นให้เป็นไปตามความในมาตรา 60 แห่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 กสทช.มีอำนาจหน้าที่ดำเนินการจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับประกอบกิจการวิทยุ กระจายเสียง วิทยุ โทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมให้เกิดประโยชน์สุงสุดแก่ประชาชน โดยมีสำนักงาน กสทช.เป็นหน่วยงานธุรการ ซึ่งได้รับโอนบรรดากิจการ ทรัพยสิน สิทธิ หน้าที่ หนี้ พนักงานและลูกจ้าง รวมทั้งงบประมาณมาจากสำนักงาน กทช.ตั้งแต่วันที่ 20 ธันวาคม 2553 เป็นต้นมา ต่อมาวันที่ 7 ตุลาคม 2554 ได้มี คณะกรรมการ กสทช.จำนวน 11 คนประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญจากสาขาต่างๆที่ผ่านการสรรหาและคัดเลือกมาอย่างเข้มข้น ก่อนที่วุฒิสภาจะมีมติคัดเลือกภายในกรอบระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด จนได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯแต่งตั้งให้เข้าดำรงตำแหน่ง กสทช.เพื่อให้มีอำนาจในการกำกับดูแลกิจการสื่อสารของประเทศอย่างเต็มรูปแบบ
.
เพื่อให้เกิดความคล่องตัวในการปฎิบัติตามภารกิจกฎหมายกำหนดให้บุคลากรของสำนักงาน กสทช.มีเลขาธิการ กสทช.เป็นผู้ดูแลและสนับสนุนการขับเคลื่อนภารกิจ อันนำมาซึ่งประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชนชนและก่อให้เกิดการแข่งขันโดยเสรี และอย่างเป็นธรรม หน่วยงานธุรการ เลขาธิการ กสทช.เป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุด ปัจจุบัน มีนายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รองเลขาธิการ กสทช.รักษาการแทนเลขาธิการ กสทช.
.
ปัญหาว่า บอร์ด กสทช.ได้ปล่อยให้เกิดสูญญากาศ ในการบริหารงานของหน่วยงานธุรการ กสทช. คือ “เลขาธิการ กสทช.”ว่างลง แต่ปล่อยปละละเลยไม่แต่งตั้งเลขาธิการ กสทช.คนใหม่เพื่อมาทำหน้าที่หัวหน้าฝ่ายบริหารในองค์กร กสทช. จึงเกิดคำถามหลายประเด็น ดังนี้
(1)ตำแหน่งเลขาธิการ กสทช.เป็นตำแหน่งสำคัญสูงสุดในหน่วยงานธุรการ
บอร์ด กสทช.ปล่อยให้ตำแหน่งว่างลง โดยไม่มีการสรรหาบุคคลเข้ามาทำหน้าที่แทนในตำแหน่งเลขาธิการ กสทช.หรือสรรหา แต่ปล่อยระยะเวลาให้ตำแหน่งเลขาธิการ กสทช.ว่างลงเนิ่นนานโดยไม่แต่งตั้งคนใหม่ แม้จะมีผู้รักษาการตำแหน่งเลขาธิการ กสทช. ก็ตาม ย่อมไม่เกิดเสถียรภาพเป็นผู้นำองค์กรและขัดหลักเจตจำนงสุจริตของผู้บริหารในองค์กร กสทช.และมาตรการส่งเสริมความโปร่งใสและป้องกันการทุจริตในองค์กรเพราะตำแหน่งเลขาธิการ กสทช.จะต้องคัดเลือกจากบุคคลผู้มีประสบการณ์ มีความรู้ ความสามารถเชิงประจักษ์ ที่สำคัญจะต้องซื่อสัตย์สุจริต กระบวนการตัดสินใจในการบริหารงานเป็นสิ่งสำคัญ การปล่อยให้เก้าอี้เลขาธิการ กสทช.ว่าง ไม่เร่งรีบสรรหาและแต่งตั้งใหม่ ย่อมมีผลกระทบต่อการขับเคลื่อนองค์กร กสทช.และความเชื่อมั่นของประชาชนเพราะกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรคมนาคม มีผลต่อการดำเนินชีวิตของประชาชน ดังจะเห็นได้จาก การถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกปี 2022(รอบสุดท้าย) ขาดการบริหาร วางแผน ขาดยุทธศาสตร์ ทำให้ตัดสินใจผิดพลาด และขาดการป้องกัน เป็นผลให้โทรทัศน์ระบบบอกรับสมาชิก IPTV “จอดำ”
จึงเกิดคำถามจากภาคประชาชนว่า คณะกรรมการบอร์ด กสทช.ไม่เร่งรีบแต่งตั้งตำแหน่งเลขาธิการ กสทช.คนใหม่ เพื่อประโยชน์ของบุคคลใดหรือไม่ อย่างไร ขาดความเป็นมืออาชีพในการบริหารงาน กสทช.หรือไม่ ประเทศชาติเกิดความเสียหายหรือไม่ อย่างไร ขัดแย้งกับภารกิจสำคัญของ กสทช.หรือไม่ หากพิจารณาถึงภารกิจสำคัญของ กสทช. เป็นผู้ดูแลและสนับสนุนการขับเคลื่อนภารกิจ อันนำมาซึ่งประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชนชนและก่อให้เกิดการแข่งขันโดยเสรี และอย่างเป็นธรรม ควรจะชี้แจงให้ประชาชนรับทราบ
.
(2)ปัญหาการใช้อำนาจของ บอร์ด กสทช.อนุมัติให้ กกท.ยืมเงิน 600 ล้าน โดยไม่ใช่วัตถุประสงค์หลักขององค์กร การเรียกเงินคืน ภายใน 15 วันพร้อมดอกเบี้ยตามกฎหมาย แม้จะเป็นคำสั่งทางปกครอง แต่ขณะเดียวกัน มติการเรียกเงินคืนดังกล่าว สับขาหลอกเพื่อป้องกันถูกดำเนินคดีอาญาฐานปฎิบัติหน้าที่หรือละเว้นปฎิบัติหน้าที่ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157
แต่ในเชิงบริหารองค์กร ถือว่า ขาดมืออาชีพ เป็นการตัดสินใจผิดพลาดหรือไม่ แม้ กกท. ยืนยันว่าไม่ได้ทำผิดกฎ "มัสต์แคร์รี" เรียกคืนไม่ได้ ก็ตาม ต้องไปฟ้องเพิกถอนคำสั่งที่ศาลปกครอง
.
การปล่อยให้เกิดสูญญากาศ ไร้หัวฝ่ายบริหาร ไร้ทิศทาง ไม่แต่งตั้งเลขาธิการ กสทช.คนใหม่ ตั้งข้อสังเกตว่า การปล่อยระยะเวลาให้เนิ่นนาน โดยไม่แต่งตั้ง เลขาธิการ กสทช.คนใหม่ มีนัยยะอะไรหรือไม่ ขณะนี้สังคมและประชาชนทั้งประเทศเฝ้าจับตามองอยู่ แม้ ภารกิจสำคัญของ กสทช. ตำแหน่งเลขาธิการ กสทช.เป็นแม่งานหลักขององค์กรและตำแหน่งสำคัญ การปล่อยให้ตำแหน่งว่างลง โดยไม่รีบสรรหาและแต่งตั้งคนใหม่ มาทำหน้าที่ อาจเกิดผลเสียมากกว่าผลดี เพราะทำให้ประเทศชาติได้รับความเสียหาย เพราะ กสทช.จะต้องรักษาผลประโยชน์ของรัฐ แม้วันนี้ กสทช.จะออกประกาศฟอร์มทีมรับโทรคมนาคม ยุคใหม่ คาดอีก 3 ปี มูลค่าตลาดพุ่ง 377 ล้าน เตรียมตั้ง คณะกรรมการดูแลธุรกิจโอทีทีเต็มตัว หลังเทรนด์เทคโนโลยีวิ่งไปสู่ตลาดใหม่เพื่อให้ผู้ประกอบการรับไลเซ่น ไม่ถูกเอาเปรียบทั้งเรื่องบำรุง รักษาโครงข่าย-ภาษี แต่ภาพรวมขององค์กรย่อม เกิดสูญญากาศเหมือนสภาพไม่ต่างจากผีไร้หัว ขาดแผนยุทธศาสตร์ ดังจะเห็นได้จาก การถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก ปี 2022 รอบสุดท้าย หาก กสทช.ภาครัฐทำไม่ได้ ก็ควรให้ภาคประชาชนที่มีศักยภาพประมูล ย่อมสร้างรายได้เข้ารัฐมากกว่า หากพิจารณาถึงค่าลิขสิทธิ์ 1,600 ล้าน แล้ว ไม่ต้องไปต่อรองราคาให้เสียเครดิตประเทศไทย ความเป็นนักบริหารมืออาชีพ ย่อมที่จะรักษาผลประโยชน์ของรัฐมากกว่า แต่เท่าที่เห็น ระยะเวลาเหลือ 3 วันสุดท้ายกระชั้นชิด ทำให้ประชาชนลุ้นกันทั้งประเทศว่าจะได้ดูฟุตบอลโลกหรือไม่?? ถึงได้รวบรวมเงิน ไปจ่ายค่าลิขสิทธิ์ ถามว่า มีศักยภาพเพียงแค่นี้ หรือไม่ อย่างไร แม้จะให้ กกท.เป็นผู้ดำเนินการก็ตาม ในส่วนการฟอร์มทีม กสทช. เหมือนขายฝัน เพื่อดึงเวลาไม่ แต่งตั้งเลขาธิการ กสทช.คนใหม่ ย่อมเกิดความเสียหายมากกว่าผลดีต่อประเทศชาติโดยรวม แล้วประชาชนจะคาดหวังจาก กสทช.ได้อย่างไร นี่คือ คำถามของประชาชนที่ฝากถามมา แม้ฟุตบอลไทยไม่ได้ไปฟุตบอลโลก แต่อย่าให้คนไทยเสียโอกาสลุ้นฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย
//////