พิษณุโลก ผู้ต้องหาฆ่าผู้อื่นย่องมอบตัว ยืนยันความบริสุทธิ์หลัง ตำรวจกดดันออกหมายจับ
ผู้ต้องหาคดีอาวุธปืน ฆ่าผู้อื่นตาย ในพื้นที่ จ.พิจิตร
ย่องเงียบขอมอบตัวกับตำรวจภูธรภาค 6 หลังหลบหนีประกันในชั้นสอบสวน เผยที่มามอบตัวเพราะโดนเจ้าหน้าที่กดดันหนักยอมรับผิดคดีอาวุธปืน แต่ปฏิเสธในคดีฆ่าคนตาย จึงมามอบตัวเพื่อยืนยันความบริสุทธิ์
เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 12 เมษายน 2566 ที่ตำรวจภูธรภาค 6 ต.มะตูม อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก พล.ต.ต.บัณฑิต ตุงคะเศรณี รอง ผบช.ภ.6 พร้อมด้วย พล.ต.ต.สารนัย คงเมือง ผกก.สส.ภ. 6 พลตำรวจตรีกำธร จันที ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพิจิตร ได้แถลงข่าวคืบหน้าการติดตามจับกุมผู้ต้องหา ในคดีฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ในพื้นที่ จ.พิจิตร ซึ่งตัวผู้ต้องหาคดีมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ก่อนจะหลบหนีประกันในชั้นสอบสวนไป ต่อมาพบว่ามีพยานหลักฐานว่าผู้ต้องหาได้กระทำความผิดในคดีฆ่า นายวันชัย บุญส่ง อายุ 60 ปี จึงได้ออกหมายจับ ส่งชุดสืบสวนลงพื้นที่กดดัน จนตัวผู้ต้องหาติดต่อขอมอบตัว และปฏิเสธคดีฆ่าคนตาย
พล.ต.ต.บัณฑิต ตุงคะเศรณี รอง ผบช.ภ.6 ได้กล่าวว่าสำหรับคดีนี้เหตุเกิดเมื่อวันที่ 16 มกราคม 2566 มีคนพบศพนายวันชัย บุญส่ง อายุ 60 ถูกยิงเสียชีวิตอยู่ในลักษณะคร่อมรถจักรยานยนต์ที่ล้มอยุ่ บริเวณถนนทางระหว่างทุ่งนา ม.2 ต.ไผ่หลวง อ.ตะพานหิน จ.พิจิตร ในที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนปืน .38 ซุปเปอร์ จำนวน 2 ปลอกตกอยู่ ทางภรรยาผู้เสียชีวิตจึงได้เข้าแจ้งความเพื่อให้ติดตามจับกุมตัวคนร้ายมาดำเนินคดี ซึ่งจากการทำงานของชุดสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจมีมูลเหตุว่า นายวันชัย บุญส่ง ผู้เสียชีวิตได้ทะเลาะและมีปากเสียงกับ นายยุทธภูมิ หรือนง ชูเพ็ชร อายุ 68 ปี (ผู้ตายเป็นญาติกับภรรยาของนายยุทธภูมิ ชูเพ็ชร) ในงานบวชนาคที่วัดไผ่หลวง อ.ตะพานหิน จ.พิจิตร เมื่อวันที่ 14 มกราคม 2566 โดยนายยุทธภูมิฯ ได้พูดจาข่มขู่ผู้เสียชีวิตว่า “เดี๋ยวมึงเจอกู” ก่อนจะแยกย้ายกันไป ซึ่งจากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เชื่อว่า นายยุทธภูมิฯ มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของนายวันชัยฯ จึงได้ขอศาลอนุมัติหมายค้นบ้านพักของนายยุทธภูมิฯ
จากการตรวจค้นบ้านพักของนายยุทธภูมิฯ เป็นบ้านไม่มีเลขที่ภายในสวนมะม่วงและสถานที่เลี้ยงไก่ชน ม.2 ต.ไผ่หลวง อ.ตะพานหิน จ.พิจิตร และบริเวณบ้านเลขที่ 66/2 ม.2 ต.ไผ่หลวง อ.ตะพานหิน จ.พิจิตร ซึ่งบ้านทั้ง 2 หลังเป็นบ้านพักของนายยุทธภูมิฯ จากการตรวจค้นพบอาวุธปืนลูกซองยาว มีทะเบียน 1 กระบอก และเครื่องกระสุนปืน เบอร์ 12 จำนวน 13 นัด โดยนายยุทธภูมิฯ ให้การรับว่าอาวุธปืนอยู่ในความครอบครองของตนจริง แต่เป็นอาวุธปืนของคนอื่นที่นำมาฝากไว้ และเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการตรวจยึดสิ่งของที่น่าเชื่อถือว่าได้ใช้กระทำความผิดและใช้เป็นหลักฐานในการกระทำความผิดส่งตรวจพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์ และได้แจ้งข้อกล่าวหา “มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต” ต่อมานายยุทธภูมิฯ ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวและได้หลบหนีประกันในชั้นสอบสวน
ต่อมาพนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานที่แน่ชัดว่านายยุทธภูมิฯ กระทำความผิดจริง ในคดียิง นายวันชัยฯ เมื่อวันที่ 16 ม.ค.66 จึงได้ยื่นขอหมายจับจากศาลจังหวัดพิจิตรในความผิดฐาน “ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครอง โดยไม่ได้รับอนุญาตและพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยผิดกฎหมาย” และส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจลงพื้นที่กดดันตามบ้านเพื่อน บ้านญาติ ที่คิดว่านายยุทธภูมิฯ น่าจะไปหลบอยู่ จนสุดท้าย นายยุทธภูมิฯ ได้ติดต่อขอมอบตัว กับตำรวจภูธรภาค 6 และยอมรับผิดในข้อหามีอาวุธปืนไว้ในครอบครอง แต่ปฏิเสธข้อหาฆ่าคนตาย โดยยืนยันว่าที่มามอบตัวในครั้งนี้ต้องการยืนยันความบริสุทธิ์ในว่าตนเองไม่ได้ฆ่านายวันชัยฯ
พล.ต.ต.บัณฑิต ตุงคะเศรณี รอง ผบช.ภ.6 ได้กล่าวต่อว่า วันนี้จึงได้ประสานให้ทาง เจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สภ.ตะพานหิน มารับตัวผู้ต้องหาที่ตำรวจภูธรภาค 6 โดยเรื่องของการปฏิเสธข้อกล่าวหานั้นก็เป็นสิทธิของผู้ต้องหา แต่ทางตำรวจเองก็ยืนยันว่ามีหลักฐาน มีพยาน มีผลจากทางนิติวิทยาศาสตร์ ที่ยืนยันการก่อเหตุได้
ปรีชา นุตจรัส รายงานข่าวพิษณุโลก
สมาคมหนังสือพิมพ์ส่วนภูมิภาคแห่งประเทศไทย
