ตำรวจเร่งสืบสวนหาตัวมือดี ขโมยกระบี่ข้าง พระอนุสาวรีย์กรมหลวงลพบุรีราเมศวร์ ที่ประดิษฐานบนเขาน้อย กลางเมืองสงขลา พบหายเป็นครั้งที่ 2 และเร่งประสานงานติดตั้งกล้องวงจรปิด ดูพฤติกรรมลิง อาจขึ้นดึงกระบี่ นำไปทิ้งในชายป่า
พ.ต.อ. บรรเทิง เหล่าเจริญ. ผกก.สภ.เมืองสงขลา นำกำลังตำรวจชุดสืบสวน ตรวจสอบพระอนุสาวรีย์ พลเอกสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ายุคลทิฆัมพร กรมหลวงลพบุรีราเมศวร์ ที่ประดิษฐานอยู่บนเขาน้อย แหล่งท่องเที่ยวและสวนสาธารณะชื่อดังของงเมืองสงขลาอีกแห่ง หลัง กระบี่ที่ห้อยด้านขวาของ พระอนุสาวรีย์ฯ ได้หายไป ซึ่งพบว่า บริเวณห่วงที่แขวนกระบี่ มีร่องรอยของการง้างออกห่างจากกัน แต่บริเวณพื้นหินอ่อน ในส่วนของฐานพระอนุสาวรีย์ ไม่มีร่องรอยการกระบี่ตกลงมากระแทกพื้น ขณะที่ตำรวจชุดสืบสวน ได้กระจายกำลังเดินดูรอบๆ ซึ่งมีสภาพพื้นที่เป็นป่า เพราะสันนิษฐานว่า ลิงเสนที่อยู่บนเขาน้อย อาจขึ้นไปดึงกระบี่แล้วนำไปทิ้งไว้ตามเชิงเขา
ด้าน พ.ต.อ.บรรเทิง เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบ คาดว่ากระบี่จะหายมาประมาณ 1 เดือนแล้ว เนื่องจากวันที่ 8 เมษายนที่ผ่านมา จังหวัดสงขลาจัดพิธีบวงสรวง กระบี่ก็ยังอยู่ที่เดิม แต่หลังจากหาย เทศบาลนครสงขลา ก็ยังไม่ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ ซึ่งตำรวจได้มาตรวจสอบและสืบสวนข้อเท็จจริง ซึ่งพบว่าบริเวณนี้ เป็นสถานที่โล่ง ไม่มีไฟฟ้าส่องสว่าง ไม่มีรั้วกั้น ไม่มีกล้องวงจรปิด ซึ่ง สภ.เมืองสงขลา จะนำกล้องวงจรปิดไร้สายเชื่อมต่อสัญญาณไวไฟ มาติดตั้งดูพฤติกรรมลิง หากพบว่า ลิงขึ้นไปด้านบนพระอนุสาวรีย์ ก็มีความเป็นไปได้ที่ลิงจะดึงกระบี่จนหลุด นอกจากนี้จะประสานงาน เทศบาลนครสงขลา ให้ติดตั้งกล้องวงจรปิดถาวร และ ติดตั้งไฟฟ้าส่องสว่าง ทั้งนี้หากกระบี่ดังกล่าว หายไปโดยการถูกขโมย ก็คาดว่าเป็นคนที่อาศัยอยู่ละแวกดังกล่าว เพราะการเดินขึ้นไปบริเวณ พระอนุสาวรีย์ฯ ที่อยู่บนเขาน้อย ต้องมีความชำนาญ ซึ่งตำรวจก็จะสืบสวนหาตัวคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้ ส่วนเรื่องลิง ก็ดึงกระบี่ ก็ยังไม่ตัดประเด็นนี้ เพราะที่ผ่านมา ลิงบริเวณเขาน้อย เขาตังกวน แหล่งท่องเที่ยวของเมืองสงขลา มีพฤติกรรมดุร้าย และทำลายทรัพย์สินสถานที่ราชการ วัด และบ้านเรือนประชาชน จนได้รับความเสียหาย
ขณะที่ เจ้าหน้าที่เทศบาลนครสงขลา ได้มาตรวจสอบจุดเกิดเหตุ และเตรียมเสนอให้ปิดกั้นพื้นที่ไว้ เพื่อดำเนินการบูรณะพระอนุสาวรีย์ฯ
ทั้งนี้กระบี่ ที่ห้อยอยู่ด้านขวา พระอนุสาวรีย์พลเอกสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ายุคลทิฆัมพร กรมหลวงลพบุรีราเมศวร์ เคยถูกคนร้ายขโมย มาแล้วครั้งแรก เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2551 ก่อนที่จะมีการบูรณะและ จัดหากระบี่ทดแทนอันเดิมที่ถูกขโมยไป และเมื่อวันที่ 8 เมษายน ที่ผ่านมา จังหวัดสงขลาได้จัดพิธีวางพวงมาลาผลไม้สด ถวายราชสักการะพระอนุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ายุคลฑิฆัมพร กรมหลวงลพบุรีราเมศวร์ เนื่องในวันคล้ายวันสิ้นพระชนม์ 8 เมษายน ซึ่งกระบี่ก็ยังอยู่ที่เดิม
สำหรับพระอนุสาวรีย์พลเอกสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอเจ้าฟ้ายุคลทิฆัมพร กรมหลวงลพบุรีราเมศวร์ ได้จัดสร้างขึ้นโดยได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฎราชกุมาร ทรงเสด็จเป็นองค์ประธานในพิธีเปิดเมื่อ 17 มีนาคม 2538 เพื่อให้ชาวสงขลาได้ รำลึกถึงพระกรุณาธิคุณแห่งพระองค์ ที่ทรงประกอบพระกรณียกิจน้อยใหญ่ ยังความร่วมเย็นเป็นสุขแก่บรรดาอาณาประชาราษฎร์ในภาคใต้ และจังหวัดสงขลา
โดย พระราชประวัติของสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ายุคลทิฆัมพร กรมหลวงลพบุรีราเมศวร์ ทรงเป็นพระราชโอรสลำดับพระองค์ที่ 41 ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระอัครชายาเธอ พระองค์เจ้าสายสวลีภิรมย์ฯ ประสูติเมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2425 หลังสำเร็จการศึกษา พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เป็นข้าหลวงเทศาภิบาล มณฑลนครศรีธรรมราช ซึ่งมีศูนย์บัญชาการอยู่ที่เมืองสงขลา มีพระราชอำนาจบังคับบัญชาสูงสุด ปกครองมณฑลปักษ์ใต้ 3 มณฑล คือ สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช และปัตตานี ในช่วงเวลาที่ทรงประทับ ณ เมืองสงขลา ทรงใช้เมืองสงขลาเป็นศูนย์บัญชาการปกครองเมืองต่างๆ ที่อยู่ในเขตมณฑลปักษ์ใต้เป็นเวลาถึง 15 ปี
โดยช่วงดังกล่าวทรงอุทิศพระองค์เพื่อราชการบ้านเมือง จนทำให้เมืองสงขลาได้ชื่อว่า เป็นเมืองที่มีระเบียบแบบแผนทางพิธีการอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง ทรงพัฒนาบ้านเมืองเพื่อความอยู่ดีมีสุขของประชาชน ทรงโปรดให้สร้างโรงพยาบาล ส่งเสริมกิจการเสือป่า และลูกเสือ ทรงวางโครงการสร้างถนนหนทางจากเมืองสู่ชนบท ริเริ่มโครงการพัฒนาด้านคมนาคมในภาคใต้ และมีแนวพระดำริที่จะพัฒนาอ่าวสงขลาในขณะนั้น เช่น สร้างเขื่อนกันคลื่นหน้ามรสุม ขุดลอกร่องน้ำลึกบริเวณปากอ่าวสงขลา เป็นต้น ก่อนที่ พระองค์ จะสิ้นพระชนม์ เมื่อวันที่ 7 เมษายน พ.ศ.2475 รวมพระชนมายุ 50 พรรษา
ซัมซูดิน เจ๊ะแดร์ ศูนย์ข่าวหนังสือพิมพ์ทันใจนิวส์จังหวัดสงขลา
////////////
สมาคมหนังสือพิมพ์ส่วนภูมิภาคแห่งประเทศไทย
สนับสนุนโดย