วันจันทร์ที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2566

สำนักงานหนังสือพิมพ์ทันใจนิวส์

ข่าวสังคม
ตำรวจไซเบอร์เตือนภัย เพจเฟซบุ๊กหน่วยงานราชการปลอมระบาด ล่าสุดมิจฉาชีพ 
“ปลอมเพจตำรวจไซเบอร์” 2 เพจ พบผู้เสียหายหลายราย ถูกหลอกให้โอนเงินค่าติดตามทรัพย์สิน ค่าทนาย และหลอกเอาข้อมูลส่วนตัวไปหาผลประโยชน์ แนะวิธีสังเกต
.
“ตำรวจไซเบอร์” กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ( บช.สอท. ) เผยว่า ระบบศูนย์บริหารการแจ้งความออนไลน์ และสายด่วนตำรวจไซเบอร์ 1441พบผู้เสียหายหลายรายร้องเรียนว่าถูกมิจฉาชีพหลอกลวงเอาข้อมูลส่วนบุคคล และหลักฐานทางคดี อาจจะถูกนำไปแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบ หรือผิดกฎหมาย
.
ผู้เสียหายได้ติดต่อไปยังเพจเฟซบุ๊กหน่วยงานในสังกัด บช.สอท. หรือตำรวจไซเบอร์ จำนวน 2 เพจ ได้แก่ 1.เพจที่ใช้ชื่อว่า “ ตำรวจไซเบอร์ 2 ” และ 2.เพจที่ใช้ชื่อว่า “ กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 5 – CCID5 ” ซึ่งมิจฉาชีพได้ปลอมขึ้นมา และตั้งชื่อให้เหมือนกับเพจเฟซบุ๊กจริง ใช้การโฆษณาเพื่อเข้าถึงเหยื่อเป้าหมาย หลอกลวงให้ผู้เสียหายที่ไม่ทันได้สังเกตที่ติดต่อเข้ามาแล้วหลอกลวงสอบถามเอาข้อมูลต่างๆ
.
วิธีการของมิจฉาชีพ
• เริ่มจากสอบถามว่ามีเรื่องใดให้ช่วยเหลือ ถูกหลอกลวงหรือถูกโกงเรื่องใด มูลค่าความเสียหายเท่าใด 
• ขอหลักฐานทางคดีที่เกี่ยวข้อง เช่น หลักฐานการพูดคุยกับคนร้าย หลักฐานการโอนเงินไปยังบัญชีคนร้าย แพลตฟอร์มที่ถูกหลอกลวง เป็นต้น 
• ใช้ตราสัญลักษณ์ของ บช.สอท. ภายในเพจ ลักษณะดังกล่าวยังมีเนื้อหารูปภาพและข้อความจากเพจจริงมาใช้ 
• มิจฉาชีพจะให้เพิ่มเพื่อนทางแอปพลิเคชันไลน์เพื่อไปติดต่อกับทนายความปลอม ชื่อบัญชี “ ทนายอนันต์ชัย ” ไอดีไลน์ “ anantchat41 ” ที่อ้างว่าสามารถช่วยเหลือ และติดตามหรือกู้คืนทรัพย์สินที่ผู้เสียหายสูญเสียไปกลับคืนมาได้ 
• จากนั้นจะมีการให้เพิ่มเพื่อนทางไลน์เพื่อไปแจ้งรายละเอียดที่เกี่ยวข้องไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจปลอมยศ พ.ต.อ. อ้างว่าเป็นหัวหน้าทีม IT เชี่ยวชาญทางด้านเทคโนโลยี ไอดีไลน์ “ cyber00it ” 
• แจ้งว่าหากอยากได้เงินคืน ต้องมีการโอนเงินเพื่อเป็นค่าดำเนินการต่างๆ และค่าทนายมาให้ก่อนถึงจะได้รับความช่วยเหลือ 
• เมื่อผู้เสียหายหลงเชื่อโอนเงินไปแล้วก็จะถูกตัดขาดการติดต่อ โดยมิจฉาชีพอาจจะนำข้อมูลที่ได้ไปแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบ ไม่ว่าจะเป็นการนำข้อมูลไปแฮกบัญชีสื่อสังคมออนไลน์แล้วไปหลอกยืมเงินผู้อื่น หรือโอนเงินจากบัญชีธนาคาร หรือนำข้อมูลไปขายให้กับแก๊งมิจฉาชีพคอลเซ็นเตอร์ หรือนำไปแอบอ้างทำเรื่องที่ผิดกฎหมายต่างๆ   

บช.สอท. โดย พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. ได้เร่งรัดขับเคลื่อนตามนโยบายของรัฐบาล โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร. ในการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดอาชญากรรมออนไลน์ในทุกรูปแบบ 
.
รวมถึงการสร้างการรับรู้ให้แก่ประชาชนไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เกี่ยวข้องกับการแอบอ้างหน่วยงานของรัฐ หลอกลวงเอาทรัพย์สิน หรือข้อมูลส่วนตัวของประชาชนไปแสวงหาผลประโยชน์โดยผิดกฎหมาย ซึ่งถือเป็นการซ้ำเติมความเดือดร้อนของประชาชน 
.
ขอฝากประชาสัมพันธ์ถึงวิธีการป้องกันเข้าสู่เพจเฟซบุ๊กปลอม ดังนี้
1.ประชาชนที่ได้รับความเสียหายในคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยี สามารถแจ้งความออนไลน์ได้ที่ https://thaipoliceonline.com เท่านั้น โดยสามารถโทรสอบถามหรือปรึกษาได้ที่ สายด่วนตำรวจไซเบอร์ 1441 หรือ 081-866-3000 และไม่มีช่องทางไลน์ในการติดต่อ มีเพียงแชทบอท @police1441 ที่เอาไว้ปรึกษาคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยี คอยให้บริการตอบคำถามประชาชน ตลอด 24 ชั่วโมง
.
2.บช.สอท. และหน่วยงานในสังกัด ไม่มีนโยบายให้ประชาชนติดต่อกับทนายความ หรือให้ติดต่อกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เชี่ยวชาญทางด้านเทคโนโลยี เพื่อทำการติดตามทรัพย์สินที่ถูกหลอกลวงไปกลับคืนได้
.
3.เพจเฟซบุ๊กของ บก.สอท.2 คือ “ ตำรวจไซเบอร์ 2 ” มีผู้ติดตามกว่า 7 พันราย สร้างบัญชีเมื่อ 28 ม.ค.64 และเพจเฟซบุ๊กของ บก.สอท.5 คือ “ กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 5 – CCID5” มีผู้ติดตามกว่า 1 หมื่นราย สร้างบัญชีเมื่อ 6 พ.ย.63 และหากท่านต้องการที่จะเข้าสู่เพจดังกล่าวขอให้ตรวจสอบให้ดีเสียก่อน
.
4.เพจเฟซบุ๊กจริงจะต้องมีเครื่องหมายถูกสีฟ้ายืนยันตัวตน หากไม่มีเครื่องหมายให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าเป็นเพจปลอม
.
5.เพจเฟซบุ๊กจริง มักจะมีส่วนร่วมในการโพสต์เนื้อหา รูปภาพ หรือกิจกรรมต่างๆ ต่อเนื่อง รวมถึงมีจำนวนผู้ติดตามที่ไม่น้อยจนเกินไป 
.
6.เพจเฟซบุ๊กปลอม หากตรวจสอบความโปร่งใสของเพจ จะพบว่าสร้างขึ้นมาได้ไม่นาน และอาจเคยเปลี่ยนชื่อมาจากเพจอื่นที่น่าสงสัย หรือมีผู้ดูแลเพจอยู่ต่างประเทศที่ไม่ใช่ประเทศไทย
.
7.ไม่กรอก หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนตัว ข้อมูลทางการเงิน ข้อมูลทางคดี ผ่านสังคมออนไลน์ต่างๆ เช่น ไลน์ เฟซบุ๊ก โดยเด็ดขาด
.
8.การพิมพ์ชื่อหน่วยงานเพื่อค้นหาเว็บไซต์ของหน่วยงานใดๆ ไม่ได้มีความปลอดภัยเสมอไป ควรเพิ่มความระมัดระวังในการสังเกตชื่อเว็บไซต์ หรือสังเกต URL อย่างละเอียด และไม่หลงเชื่อเว็บไซต์ที่มีการยิงโฆษณาของมิจฉาชีพ
.
9.หากพบ หรือไม่แน่ใจว่าเป็นเพจเฟซบุ๊ก หรือเว็บไซต์ของหน่วยงานนั้นๆ จริงหรือไม่ ให้ติดต่อไปยังหน่วยงานนั้นๆ โดยตรง ผ่านหมายเลขคอลเซ็นเตอร์ของหน่วยงานนั้น เพื่อสอบถามและแจ้งให้ทำการตรวจสอบทันที
.
10.หากมีการให้โอนเงินไปยังหน่วยงานที่แอบอ้างก่อนที่จะได้รับบริการใดๆ ให้สันนิษฐานว่าเป็นมิจฉาชีพแน่นอน

#วัคซีนไซเบอร์
#รู้ทันกลโกง
#สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
#Royalthaipolice
สมาคมหนังสือพิมพ์ส่วนภูมิภาคแห่งประเทศไทย
สนับสนุนโดย
 รายงานข่าว

โพสต์ข่าวแนะนำ

สำนักงานหนังสือพิมพ์ทันใจนิวส์

17 กรกฎาคม 2567  โรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ จัดการอบรมเชิงปฏิบัติการพัฒนาศักยภาพการวิจัยแก่บุคลากร ครั้งที่ 3 ระหว่างวันที่ 17 - 19 กรกฎาค...

ข่าวดัง ยอดนิยม คนสนใจ