วันพุธที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2566

สำนักงานหนังสือพิมพ์ทันใจนิวส์

ข่าวสังคม
นาทีบีบหัวใจ ทุกวินาทีคืออีกชีวิตที่รอไม่ได้  “หมอ” ซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์ “ตำรวจจราจรโครงการพระราชดำริ” ข้ามจังหวัด นำ “
หัวใจดวงที่ 73”  ฝ่าสภาพการจราจรติดขัดท่ามกลางสายฝน ต่ออีกหนึ่งลมหาย “ผบ.ตร.- รอง ผบ.ตร.”  ชมเชยเป็นตำรวจมืออาชีพ ยกเป็นตัวอย่าง ‘สุภาพบุรุษจราจร
.
เมื่อ 12 กันยายน 2566 พล.ต.ท.นิธิธร จินตกานนท์ ผู้บัญชาการประจำสำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานเสริมสร้างภาพลักษณ์ตำรวจจราจร ศูนย์บริหารงานจราจร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศจร.ตร.) เปิดเผยว่า ตำรวจจราจรโครงการพระราชดำริ กองบังคับการตำรวจจราจร อำนวยความสะดวกการจราจรเร่งนำส่งอวัยวะหัวใจส่ง รพ.ศิริราช ได้ทันเวลา โดยเป็นการส่งอวัยวะหัวใจดวงที่ 73 จากผู้บริจาค ช่วยต่อชีวิตอีกหนึ่งชีวิต
.
พล.ต.ท.นิธิธร เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2566 เวลาประมาณ 17.35 น. ตำรวจจราจรโครงการพระราชดำริฯ ได้รับการประสานงานจากศูนย์บริจาคอวัยวะโรงพยาบาลสมุทรสาคร ผ่านศูนย์วิทยุจราจรโครงการพระราชดำริ แจ้งว่าขอสนับสนุนนำอวัยวะหัวใจจาก รพ.สมุทรสาคร ส่งยัง รพ.ศิริราช 
.
หลังจากรับแจ้ง ตำรวจโครงการพระราชดำริฯ ได้นำกำลังตำรวจไปรอรับที่ รพ.สมุทรสาคร เพื่ออำนวยความสะดวกการจราจร เร่งนำส่งอวัยวะหัวใจไปยัง รพ.ศิริราช แต่การนำส่งหัวใจในครั้งนี้เหลือเวลาที่จำกัด และเป็นเวลาช่วงเย็นที่มีฝนตก สภาพการจราจรค่อนข้างหนาแน่น  แพทย์จึงตัดสินใจนำอวัยวะหัวใจขึ้นซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ของตำรวจจราจรโครงการพระราชดำริ โดยมี “ร.ต.ต.ศักดิ์ชาย กระแสร์ญาณ” เป็นผู้ขับขี่มุ่งหน้าสู่โรงพยาบาลเป้าหมายทันที  
.
ระหว่างทางฝนตกลงมาอย่างหนัก แต่ทั้งแพทย์และตำรวจทุกนายก็มีความมุ่งมั่นที่จะนำพาหัวใจดวงนี้ไปยัง รพ.ที่หมาย รวมถึงได้รับความร่วมมือจากตำรวจจราจร สน.ท้องที่ ในเส้นทางทุกพื้นที่ และผู้ใช้เส้นทางที่ช่วยเปิดทางให้จนภารกิจชีวิตในครั้งนี้สำเร็จลุล่วงด้วยดี
.
พล.ต.ท.นิธิธร กล่าวว่า ตำรวจจราจรโครงการพระราชดำริฯ ได้เปิดเส้นทางนำส่งอวัยวะหัวใจ ซึ่งระยะเวลาตั้งแต่ผ่าตัดหัวใจของผู้บริจาค จนกระทั่งปลูกถ่ายให้ผู้รับ มีเวลาเพียง 4 ชั่วโมงเท่านั้น โดยอวัยวะหัวใจหากทำการผ่าตัดออกมาจากร่างกายของผู้บริจาคแล้วจะอยู่ได้ไม่เกิน 4 ชั่วโมง นับจากเวลาที่ปิดทางเดินเลือดในการผ่าตัดหัวใจของผู้บริจาค จนกระทั่งเปิดให้เลือดผ่านหัวใจใหม่ในร่างกายของผู้รับการปลูกถ่าย จึงเป็นภารกิจที่ต้องแข่งกับเวลา กรณีนำส่งอวัยวะหัวใจในครั้งนี้ นับเป็นรายที่ 73 แล้ว ที่ตำรวจจราจรโครงการพระราชดำริฯ นำส่งอวัยวะลุล่วงจนแพทย์สามารถปลูกถ่ายหัวใจ ต่อชีวิตใหม่ให้กับผู้รับบริจาคได้
.
“พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) และ พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร. ในฐานะ ผอ.ศจร.ตร. ได้ชมเชยการปฏิบัติหน้าที่ของทีมตำรวจจราจรโครงการพระราชดำริฯ ที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างมืออาชีพ มีทักษะคล่องแคล่ว สามารถให้ความช่วยเหลือ เป็นที่พึ่งของประชาชน และสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน ซึ่งถือเป็นหนึ่งตัวอย่างของตำรวจจราจรที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยจิตอาสาบริการ มีมาตรฐานสากล ตามแนวทางการสร้าง “สุภาพบุรุษจราจร” ที่ ศจร.ตร.กำลังขับเคลื่อนสร้างมาตรฐานตำรวจจราจรทั่วประเทศ เพื่อยกระดับการบริการประชาชน สร้างความเชื่อถือศรัทธา และนำไปสู่การลดอุบัติเหตุบนท้องถนนในที่สุด”
.
พล.ต.ท.นิธิธร กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้ยังมีผู้รอรับการบริจาคอวัยวะอยู่มากกว่า 6,000 คนทั่วประเทศ จึงขอเชิญชวนประชาชนร่วมต่อลมหายใจให้กับผู้ป่วย เพราะการบริจาคอวัยวะแก่เพื่อนมนุษย์ คือที่สุดแห่งการให้ โดยตำรวจจราจรพร้อมสานต่อเจตนารมณ์ของผู้บริจาค และเติมเต็มความหวังของผู้รับบริจาค เป็นส่วนหนึ่งในการสร้างชีวิตใหม่ อำนวยความสะดวกนำทางส่งต่ออวัยวะสำคัญ ทั้งนี้ หากประชาชนต้องการความช่วยเหลือ สามารถติดต่อประสานงานตำรวจโครงการพระราชดำริฯ ได้ที่ โทร 1197 กองบังคับการตำรวจจราจร

#สุภาพบุรุษจราจร 
#สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
#Royalthaipolice
สมาคมเครือข่ายผู้สื่อข่าว และสื่อมวลชนนานาชาติ
สนับสนุนโดย
 รายงานข่าว

โพสต์ข่าวแนะนำ

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ตอกย้ำปณิธาน “ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต” มอบห้องผ่าตัดปลอดเชื้อ มาตรฐาน ISO7 มูลค่ากว่า 4.1 ล้านบาท แก่โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชธาตุพนม มอบโอกาสการรักษา ช่วยเหลือชาวนครพนมอย่างยั่งยืน

สำนักงานหนังสือพิมพ์ทันใจนิวส์ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ตอกย้ำปณิธาน “ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต” มอบห้องผ่าตัดปลอดเชื้อ มาตรฐาน ISO7 มูลค่าก...

ข่าวดัง ยอดนิยม คนสนใจ

ข่าวดังรายสัปดาห์ HOT NEWS