ชุมชนสุเหร่าบ้านเกาะ เขตมีนบุรี.มีการปลูกจิตสำนึกแก้ปัญหาชุมชนสุเหร่าบ้านเกาะเป็นหมู่บ้านต้นแบบด้านการจัดการขยะไปรีไซเคิลรวมถึงแนวเกษตรวิถีพอเพียงซึ่งมีวิธีการทำงานแบบเรียบง่ายสังเกตุได้จากวิสัยทัศน์กับการพัฒนาของหมู่บ้านที่กล่าวไว้ว่า"ครอบครัวอบอุ่นชุมชน เข้มแข็ง ธรรมชาติ ยั่งยืน วันศุกร์ที่11ตุลาคม2562 ณ.ชุมชนสุเหร่าบ้านเกาะ เวลา14.00น
โดยได้รับเกียรติจากนายปรีดี นักงาน เครือข่ายอาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหมู่บ้าน ประธาน50เขต ทสม กทมได้ลงพื้นที่เพื่อดูศึกษาวิถีชีวิตชุมชนสุเหร่าบ้านเกาะพร้อมด้วยลูกทีมจิตอาสา ทสม กทม ลงพื้นทีด้วยชึ่งท่านประธานนายอารี เสมสมบูณ์ ตามด้วยประธานนางดรุณี แก้วพิศดารและนายสุรสิทธิ์ ผาบชมพูสิ่งที่ได้เรียนรู้จากขุมชุมสุเหร่าบ้านเกาะแปลใหม่การเลี้ยงดูแลแพะเพิ่มรายได้ให้กับชุมชนจากน้อยไปหามากมาเป็มฟราม์แพะเล็กๆจะเห็นได้จากการเลี้ยงดูเอาใจใส่ทำให้ผลิตน้ำนมทั้งหอมหวานอร่อยเจ้าของคนเลี้ยงยังกล่าวต่อว่าสาเหตุไม่มีกลิ่มเพราะความสะอาดการดูแลเป็นอย่างดีแถมไม่มีสารเจือปนด้วย ราคาถูกย่อมเยา จากการสนทนานายปรีดี นักงาน ได้กล่าวไว้ว่า"การพัฒนาหมู่บ้านและชุมชนหยุดรอไม่ได้ เราไมจำเป็นต้องหยุดเพื่อรองบประมาณ ทุกอย่างต้องทำไปอย่างต่อเนื่อง เราโชคดีที่มีเครือข่ายภาคส่วนต่างๆที่มาหนุนเสริมนั่นเลยเกิดเป็นผลประโยชน์ร่วมของหลายภาคส่วน.
"ทุกวันนี้ประเทศไทยยังมีทรัพยากรพร้อมมูล ทั้งทรัพยากรธรรมชาติและทรัพยากรบุคคล ซึ่งเราสามารถนำมาใช้เสริมสร้างความอุดมสมบูรณ์และเสถียรภาพอันถาวรของบ้านเมืองได้เป็นอย่างดี ข้อสำคัญเราจะต้องรู้จักใช้ทรัพยากรทั้งนั้นอย่างฉลาดคือไม่นำมาทุ่มเทใช้ให้สิ้นเปลืองไปโดยไร้ประโยชน์หรือได้ประโยชน์ไม่คุ้มค่าหากแต่ระมัดระวังใช้ด้วยความประหยัดรอบคอบ ประกอบด้วยความคิดพิจารณาตามหลักวิชา เหตุผล และความถูกต้องเหมาะสม โดยมุ่งถึงประโยชน์แท้จริงที่จะเกิดแก่ประเทศชาติ ทั้งในปัจจุบันและอนาคตอันยืนยาว"
พระราชดำรัสในการเสด็จออกมหาสมาตมในงานพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา พ.ศ.2529
วันศุกร์ที่ 5 ธันวาคม 2529
