วันศุกร์ที่ 26 มิ.ย.63 :
พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. พร้อมด้วย
พล.ต.ต.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย รอง ผบช.สตม.,
พล.ต.ต.พรชัย ขจรกลิ่น ผบก.สส.สตม.,
พ.ต.อ.สถิตย์ พรมอุทัย รอง ผบก.สส.สตม.,
พ.ต.อ.มานะ นาคทั่ง รอง ผบก.ตม.6 หน.ชป.4 ศปชก.สตม., พ.ต.อ.อาภากร โกมลสุทธิ ผกก.2 บก.สส.สตม. ได้ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุม ของ บก.สส.สตม. 3 คดี
พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. กล่าวว่า ตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เรื่องการควบคุมกำกับดูแลชาวต่างชาติที่เข้ามาพำนักอาศัยหรือเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย โดย พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รอง ผบ.ตร. มอบหมายให้ สตม. ดำเนินการตรวจสอบชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมในขณะที่พำนักอยู่ในประเทศไทย กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศ โดยวันในวันนี้เป็นผลงานของกองบังคับการสืบสวน สตม.จับกุมคดีสำคัญ 3 คดี คือ
1. บก.สส.สตม.รวบเมียนมาหื่นบังคับข่มขืนลูกสาวตนเองต่อเนื่อง 4 ปี
2. กองกำกับการปฏิบัติการอาชญากรรมพิเศษ สตม.รวบแก๊งค้ามนุษย์หลอกหญิงไทยไปทำงานค้ากามต่างประเทศ
3. บก.สส.สตม. จับกุมขบวนการนำพาแรงงานเถื่อน ลักลอบเข้าประเทศ
ณ ห้องศูนย์ TIC ชั้น 4 อาคาร 1 สตม.(สวนพลู)
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คดีที่น่าสนใจคือ บก.สส.สตม. จับกุมขบวนการนำพาแรงงานเถื่อน ลักลอบเข้าประเทศ ตรวจสอบชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศชาติ โดยเฉพาะการลักลอบหลบหนีเข้าเมืองในห้วงเวลาที่รัฐบาลมีมาตรการควบคุมและคัดกรองการเดินทางของชาวต่างชาติจากประเทศกลุ่มเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธ์ใหม่ 2019 หรือ โควิด-19
พล.ต.ต.พรชัย ขจรกลิ่น ผบก.สส.สตม. เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 15 มิ.ย.63 เวลาประมาณ 11.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.สส.สตม. ได้รับแจ้งจากสายลับ ว่าจะมีการลักลอบนำคนต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย โดยใช้รถยนต์กระบะ สีดำ ที่มีการดัดแปลงต่อเติมสภาพรถยนต์ ให้มีลักษณะเป็นเหมือนตู้เก็บสินค้าอยู่ทางด้านหลังกระบะ ไปรับคนต่างด้าวจากเขตชายแดนไทย-กัมพูชา ในเวลาเช้ามืดโดยใช้เส้นทาง ถนน 3395 วัฒนานคร-ตาพระยา ต.ช่องกุ่ม อ.วัฒนานคร จว.สระแก้ว
เมื่อเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการได้รับแจ้งข้อมูลดังกล่าว จึงทำการวิเคราะห์เส้นทางหาจุดซุ่มสังเกตการณ์ดูรถยนต์กระบะที่มีลักษณะดังกล่าว ที่บริเวณแยกช่องกุ่ม-แซร์ออ จนถึงวันที่ 16 มิ.ย. 63 เวลาประมาณ 05.45 น. ชุดปฏิบัติการได้สังเกตเห็นรถยนต์กระบะสีดำ ยี่ห้อ นิสสัน รุ่น นาวาร่า ทะเบียนกรุงเทพมหานคร มีการต่อเติมกระบะท้ายเหมือนกับที่เก็บสินค้าทางด้านหลังกระบะ มีลักษณะตรงตามที่สายลับแจ้งไว้ก่อนหน้านี้ ขับผ่านมาด้วยความเร็วสูง ท้ายกระบะรถยนต์เหมือนมีการบรรทุกของหนัก ลักษณะตรงกับรถยนต์กระบะเป้าหมายที่ใช้ในการลักลอบนำคนต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักร เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการจึงทำการติดตามและสกัดเพื่อตรวจสอบรถคันดังกล่าว จนสามารถสกัดรถคันดังกล่าวไว้ได้ แสดงตัวพร้อมกับให้คนขับรถคันดังกล่าวหยุดรถเพื่อทำการตรวจสอบ คนขับรถคันดังกล่าวหยุดรถและไม่มีท่าทีขัดขืนแต่อย่างใด ทราบว่าคนขับชื่อ นายศรัญญู อายุ 33 ปี สัญชาติ ไทย เป็นคนขับรถยนต์คันดังกล่าว พร้อมคนต่างด้าว สัญชาติ กัมพูชา 1 คน นั่งบริเวณเบาะหน้าข้างคนขับ และที่ด้านหลังกระบะท้ายที่มีการต่อเติมเป็นที่เก็บสินค้า เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการได้ตรวจพบคนต่างด้าว สัญชาติ กัมพูชา อีก 14 คน นั่งอยู่ข้างหลังกระบะ รวมทั้งสิ้นตรวจพบ คนต่างด้าวสัญชาติ กัมพูชา 15 คน เดินทางมากับรถคันดังกล่าว ซึ่งตรวจสอบแล้วคนต่างด้าวดังกล่าวไม่มีหนังสือเดินทางมาแสดงให้แก่เจ้าหน้าที่ ชุดปฏิบัติการ จึงได้จับกุม โดยเชิญตัว นายศรัญญู พร้อมกับคนต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา ทั้ง 15 คน มายัง สภ.หนองหมากฝ้าย เพื่อทำบันทึกจับกุม
จากการซักถาม นายศรัญญู (ผู้ถูกจับ/ขับรถ) ให้การว่าในวันที่ 15 มิ.ย. 63 ก่อนจะถูกจับกุมได้มีการติดต่อรับจ้างขนคนต่างด้าวดังกล่าวจาก ชายชาวกัมพูชา ที่มีชื่อว่านายฟิว(ชื่อไทย) หรือ นายเพี๊ยะ (ชื่อกัมพูชา) ให้ช่วยรับคนต่างด้าวจากชายแดนไทย-กัมพูชา ไปส่งยัง กรุงเทพมหานคร โดยติดต่อผ่านทางโทรศัพท์ ตกลงกันในราคา 3,000 บาท ต่อ/คน โดยหัก ค่านายหน้า 1,500 บาท ส่วนตัว นายศรัญญูจะได้ 1,500 บาท/คน เป็นจำนวน 15 คน ในการรับคนต่างด้าวนายฟิวหรือ นายเพี๊ยะ จะนำคนต่างด้าวผ่านเข้ามาตามช่องทางธรรมชาติ (ช่องบึงตะกวน) โดยการเดินเท้าและมารอขึ้นรถที่ตนจะนำไปรับบริเวณบ้านแก้วเพชรพลอย ต.ตาพระยา อ.ตาพระยา จว.สระแก้ว เมื่อเสร็จงานแล้วจะได้รับเงินผ่านการโอนเงินออนไลน์ เข้ามายังบัญชีของนายศรัญญู หรือบางครั้งจะนัดรับส่งเงินสดกัน
ซักถามคนต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา (ผู้ถูกจับ) ให้การว่า ในวันที่ 15 มิ.ย. 63 ก่อนจะถูกจับกุม ตนเองและเพื่อนต้องการที่จะเดินทางเข้ามายังประเทศไทยเพื่อมาทำงาน โดยเป็นที่รู้กันในหมู่ชาวกัมพูชาว่า ถ้าต้องการข้ามชายแดนมายังประเทศไทยจะต้องเดินทางมายังชายแดนไทย และจะมีนายหน้าคอยจัดหารถเพื่อลักลอบเข้ามาในประเทศไทย โดยเสียค่าใช้จ่ายเป็นเงิน 3,000 บาท ต่อคน เพื่อใช้เป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทาง โดยใช้วิธีการนั่งรถจักรยานยนต์จาก เมืองปอยเปต ประเทศกัมพูชา ถึงชายแดนประเทศไทย-กัมพูชา แล้วจึงเดินเท้าต่อ ผ่านช่องทางธรรมชาติ (ช่องบึงตะกวน) มายังบริเวณบ้านแก้วเพชรพลอย ต.ตาพระยา อ.ตาพระยา จว.สระแก้ว เพื่อมารอขึ้นรถที่จะพาตนเข้ามายัง กรุงเทพมหานคร รวมระยะการเดินทางจากชายแดนประเทศไทยถึงจุดรอขึ้นรถ บ้านแก้วเพชรพลอย เป็นระยะทางประมาณ 10 กิโลเมตร คนต่างด้าวรับว่าได้สมัครใจเข้ามาในประเทศไทยด้วยตนเอง ไม่มีผู้ใดบังคับขู่เข็ญให้ตนมา
สตม. ขอเรียนให้ท่านทราบว่า สตม.มีมาตรการในการตรวจสอบ กวดขัน และปราบปรามการกระทำความผิด ในด้านต่างๆ รวมถึงการเฝ้าระวังบุคคลทั้งสัญชาติไทยและสัญชาติอื่นๆ ที่มีหมายจับและมีเดินทางเข้าออกประเทศไทย หากประชาชนท่านใดพบเห็นเบาะแสการกระทำความผิด กรุณาแจ้งมายัง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เลขที่ 507 ซ.สวนพลู แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพมหานคร 10120 หรือที่หมายเลขโทรศัพท์ 1178หรือที่ www.immigration.go.th จักขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่ง
#สมาคมหนังสือพิมพ์ส่วนภูมิภาคแห่งประเทศไทย (สภท. 55 ปี)
#ธวัชชัยเฟื่องอนันต์รายงาน
#หนังสือพิมพ์ประชาไทออนไลน์
#T.Newsman007Online
#เอกชัย//ทันใจนิวส์//รายงาน
