เสี่ยหนุ่มร้องสื่อถูกศุลกากรกลั่นแกล้งยึดหัวกระเทียม 8 ตัน ทั้งที่มีหลักฐานการเสียภาษีศุลกากรถูกต้อง
เมื่อวันที่ 17 ส.ค 2564 นายบวรชยพจน์ ภู่ทองชินพงษ์ อายุ 37 ปี อยู่ที่ 56 ซอยตาดแคน 12 ถนนตาดแคน ต.มุกดาหาร อ.เมือง จ.มุกดาหาร ได้ร้องทุกข์กับสื่อมวลชนว่า ตนถูกเจ้าหน้าที่ศุลกากร ทำการกลั่นแกล้ง และได้เข้าแจ้งความกับ พ.ต.ท. เจษฎา ว่องไว สวส.สภ.เมืองอุดรธานี จ.อุดรธานีเมื่อวันที่ 16 ส.ค.เวลา 18.00 น. ที่ผ่านมา โดยนายบวรชยพจน์ ได้ร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนเพื่อให้ดำเนินคดีกับนายปัญญา สรรเพชญวิทยา นักวิชาการศุลกากรกรชำนาญการ หัวหน้าชุดปราบปรามและพวก ในความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 กล่าวคืนเมื่อวันที่ 16 ส.ค. เวลาประมาณ 13.00 น. ผู้แจ้งถูกเจ้าหน้าที่ศุลกากรข้างต้น ได้ร่วมกันตรวจค้นกระเทียมหัวจำนวน 8 ตัน ที่บรรทุกอยู่บนรถยนต์ 2 คันของผู้แจ้ง ขณะจะนำสิ่งของดังกล่าวมาส่งให้กับผู้สั่งซื้อที่ตลาดในเขตเทศบาลอุดรธานี ซึ่งผู้แจ้งได้นำเอกสารกำกับสินค้าที่ได้ยื่นเสียภาษีให้กับศุลกากรแล้ว ตามเลขที่ใบขนสินค้า เอ 0150640706999 แต่เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมยังคงดำเนินการจับกุม และนำของกลางพร้อมพนักงานขับรถเพื่อทำการอายัดสินค้าที่ด่านศุลกากร จ.หนองคาย แต่หลังจากที่ขับรถไปยัง จ.หนองคายได้ประมาณ 20 กิโลเมตร เจ้าหน้าที่ศุลกากรก็เปลี่ยนใจ นำสินค้าของตนพร้อมพนักงานขับรถไปยังศุลกากรท่าเรือคลองเตย กรุงเทพฯ ซึ่งตนเห็นว่าเป็นลักษณะการปฏิบัติหน้าที่ไม่ถูกต้อง เพราะหากสินค้าของตนเป็นสินค้าที่หลบหนีภาษีจริง ตามกฎหมายต้องนำส่งสำนักงานศุลกากรที่ใกล้ที่สุดคือ จ.หนองคาย ซึ่งห่างจาก จ.อุดรธานี สถานที่เกิดเหตุเพียง 50 กิโลเมตร ไม่ใช่นำสินค้าไปยังด่านศุลกากรท่าเรือคลองเตย ตนเห็นว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการกลั่นแกล้งให้ได้รับความเสียหาย จึงได้มาร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนให้ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
นายบวรชยพจน์กล่าวต่อไปว่า กระเทียมหัวทั้งหมด นำเข้าจากประเทศลาวทางด่านชายแดน จ.มุกดาหาร และมีการจ่ายเงินภาษีอย่างถูกต้องมีหลักฐานการเสียภาษี โดยนำเข้าก่อนที่จะมีการปิดประเทศจากการระบาดของ”โควิด 19” สิ้นค้าทั้งหมดตนเก็บไว้ที่โกดัง จ.นครปฐม เพื่อส่งขายยังตลาดไทย ที่กรุงเทพฯ แต่หลังจากการระบาดของ”โควิด 19” มีการปิดตลาดในกรุงเทพฯ และมีพ่อค้าในตลาดอุดรเมืองทองเจริญศรี อ.เมือง จ.อุดรธานี ต้องการสินค้าตนจึงสั่งให้พนักงานนำสินค้าไปส่ง เมื่อมาถึง อ.เมืองอุดรธานี จึงถูกเจ้าหน้าที่ศุลกากรชุดดังกล่าวทำการจับกุม ควบคุมตัวพนักงานขับรถและสินค้าไปยังด่านศุลกากรคลองเตย และไม่ได้ตั้งข้อกล่าวหาแต่อย่างใด ตนเองมีหลักฐานการเสียภาษีสินค้าทั้งหมดที่เก็บไว้ที่โกดัง จ.นครปฐม และมีหลักฐานจากกล้องวงจรปิด ตั้งแต่การขนย้ายสินค้าจากโกดัง เพื่อเดินทางไปส่งให้ลูกค้าที่อุดรธานี เป็นสินค้าที่ถูกต้อง เพราะขณะนี้ สปป.ลาวปิดประเทศ จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะมีการลักลอบขนสินค้าจาก สปป.ลาวเข้ามา เรื่องนี้ตนจะดำเนินคดีกับ เจ้าหน้าที่ศุลกากรให้ถึงที่สุด โดยนอกจากแจ้งความดำเนินคดีที่ สภ.อุดรธานีแล้ว ยังไม่มอบให้ทนายความของตนเข้าไปดูแลในเรื่องของข้อกฎหมายด้วย
พงศพัศ หนูเอียด
ทีมข่าวเฉพาะกิจ
รายงานข่าว
สนับสนุนโดย