กกล.สุรศักดิ์มนตรี บูรณาการกำลัง 3 ฝ่าย จับกุมขบวนการค้ายาเสพติดพร้อมของกลางยาบ้า 303 มัด จำนวน 606,000 เม็ด ในพื้นที่ อ.บ้านแพง จ.นครพนม
กกล.สุรศักดิ์มนตรี โดย ฉก.ทพ.21 ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ณรงค์ สวนแก้ว ผบ.พล.ร.3/ผบ.กกล.สุรศักดิ์มนตรี, พ.อ.สุคนธรัตน์ ชาวพงษ์ ผบ.บก.ควบคุมที่ 1/ ผบ.ร.3 และ พ.อ.อุทัย นิลเนตร ผบ.กรม ทพ.21/ผบ.ฉก.ทพ.21 บูรณาการด้านการข่าวในพื้นที่ อ.บ้านแพง จ.นครพนาม ได้รับแจ้งจากแหล่งข่าวว่าจะมีการลักลอบนำยาเสพติดจากขบวนการค้ายาจากประเทศเพื่อนบ้านข้ามมายังฝั่งประเทศไทย ตามแนวชายแดนแม่น้ำโขง เข้ามาในพื้นที่รับผิดชอบของหน่วยจึงได้บูรณาการร่วมกับกำลัง 3 ฝ่าย นำทีมโดย ร.ท.วันชาติ เหมือนปืน ผบ.ร้อย.ทพ.2108 ฉก.ทพ.21เข้าทำการ ซุ่ม/เฝ้าตรวจบริเวณพื้นที่ บริเวณ ริมถนนทางหลวงหมายเลข 212 ตรงป้ายบอกระยะของปั้ม ปตท.บ้านแพง ม.5 ต.บ้านแพง อ.บ้านแพง จ.นครพนม เมื่อเข้าทำการวางตัวยังจุดที่คาดว่าจะมีการขนย้ายยาเสพติด กำลังพลชุดซุ่มได้ตรวจพบของกลางยาบ้า จำนวน 3 กระสอบ วางอยู่ใต้บอกระยะปั้ม ปตท. จึงได้ทำการว่างแผนซุ่มต่อไป ครั้นเมื่อเวลา 21.00 น. ตรวจพบรถยนต์ยี่ห้อ BMW สีดำ มาจอดจุดที่มีการวางตัว และมีคนในรถลงมาจากรถดังกล่าว เพื่อจากมาเอากระสอบยาบ้าดังกล่าว หน่วยจึงแสดงตัวและทำการตรวจค้นจับกุม สามารถจับกุม ผู้ต้องหาได้จำนวน 2 คน พร้อมของกลางยาบ้า จำนวน 3 กระสอบ (อยู่ในรถ จำนวน 1 กระสอบ และวางอยู่บนพื้นอีกจำนวน 2 กระสอบ)รถยนต์ BMW สีดำ ทะเบียน กฉ 3919 เลย และ โทรศัพท์มือถือ จำนวน 6 เครื่อง จากการตรวจนับเบื้องต้น ยาเสติด (ยาบ้า) จำนวน 303 มัด นับได้จำนวน 606,000 เม็ด และยังสามารถควบคุมตัว ผู้ต้องหา จำนวน 2 คน จึงนำผู้ต้องหาพร้อมของกลางทั้งหมดนำกลับมาที่ บก.ร้อย.ทพ.2108 เพื่อทำการสอบสวนขยายผลเพิ่มเติม เบื้องต้นจากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ ผู้ต้องหาให้การว่า ไม่มีอาชีพเป็นหลักแหล่ง ภายหลังรู้จักกับนายทุนฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน จึงติดต่อว่าจ้างจากให้นำยาบ้าไปส่งตามรายชื่อที่ให้ไว้ในพื้นที่ภาคอีสาน โดยได้ค่าจ้างครั้งละ 100,000 บาท ทำมาแล้วนับ 10 ครั้ง ขนเดือนละประมาณ 2 ครั้ง โดยใช้วิธีการขนโดยรถยนต์หรู เพื่อเป็นการตบตาเจ้าหน้าที่ และใช้เส้นทางรองเลี่ยงการจับกุม แต่ครั้งนี้พลาดขณะรับยาบ้าที่ลักลอบขนมาจาก สปป.ลาว กำลังวิ่งรถขึ้นสู่เส้นทางหลัก จึงมาถูกสกัดจับกุมได้ โดยเจ้าหน้าที่จะได้เร่งสอบสวนขยายผล สาวถึงนายทุนในพื้นที่ภาคอีสาน เชื่อว่าเป็นกลุ่มเครือข่ายรายใหญ่ ที่มีการขนครั้งละจำนวนมากนับแสนเม็ด นอกจากนี้จะได้เพิ่มมาตรการเข้มตามแนวชายแดน เนื่องจากช่วงนี้มีการลักลอบขนส่งเข้ามาในพื้นที่บ่อยครั้ง จากสถิติการจับกุมยาบ้าในพื้นที่ชายแดน นครพนม รอบปีที่ผ่านมาตรวจยึดมากกว่า 10 ล้านเม็ด หน่วยจึงประสานหน่วยงานความมั่นคงที่เกี่ยวข้องร่วมทำการตรวจยึดจับกุมและส่งให้ สภ.บ้านแพง เพื่อดำเนินการตามกฏหมายต่อไป
ภาพ : ร้อย.ทพ.2108
ข่าว : นายพรพิพัฒน์ เพ็ชรสังหาร ผู้อำนวยการศูนย์ข่าวภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (อินไท NEWS,น.ส.พ.ทันใจนิวส์ และ น.ส.พ.5 เหล่าทัพ)
สนับสนุนโดย
