วันที่ ๘ พฤศจิกายน ๒๕๖๕ เวลา ๑๐.๓๐ น.
ตามคำสั่งของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. สั่งการให้หน่วยงานในสังกัด ตร. ระดมกวาดล้างอาชญากรรมที่มีผลกระทบต่อประชาชน ในห้วงวันที่ ๑๐ ตุลาคม - ๘ พฤศจิกายน ๒๕๖๕
โดยเน้นให้ปราบปรามจับกุม
ความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืน วัตถุระเบิด และเครื่องกระสุนปีน ความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ตลอดจนติดตามจับกุมบุคคลตาม
หมายจับ โดยสั่งการให้ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.)
ดำเนินการตามสั่งการอย่างเคร่งครัดและให้มีผลการปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม
ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร /ผอ.ศปอส.ตร., พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผู้ช่วย ผบ.ตร./รอง ผอ.ศปอส.ตร., พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย ผบช.ภ.๕, พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท., พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม./หน.ชป.๑ ศปอส.ตร. พ.ต.อ.สุรศักดิ์ สุรินทร์แก้ว ผกก.๓ บก.สส.สตม. เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการที่ ๑ พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนตำรวจนครบาล, ตำรวจภูธร ๑ - ๙ พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันแถลงข่าวการสืบสวนติดตามจับกุมเครือข่ายผู้ลักลอบขายอาวุธปืนและเครื่องกระสุนทางสื่อ
ออนไลน์ สืบเนื่องจาก กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.ภ.๕ ตรวจสอบพบร้านค้า "CHAROEN AIRSOFT ๔๒๘๙" ซึ่งเป็นร้านค้าออนไลน์ขายอุปกรณ์ที่สามารถดัดแปลงปืน บีบี กัน ให้เป็นอาวุธปืน
ที่สามารถยิงกระสุนจริงได้ผ่านแพลตฟอร์มซื้อขายสินค้าออนไลน์ จากการสืบสวนพบว่า นายวีรยุทธ (สงวนนามสกุล)
อายุ ๓๒ ปี เป็นเจ้าของร้านค้าดังกล่าว ต่อมา วันที่ ๒๑ ตุลาคม ๒๕๖๕ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจค้นบ้านของนายวีร
ยุทธฯ ผลการตรวจค้นพบของกลางชิ้นส่วนอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนและอุปกรณ์ทำอาวุธปืนเป็นจำนวนมาก จึงทำการจับกุมตัวนายวีรยุทธฯ พร้อมของกลางในความผิดฐาน "ทำและจำหน่ายอาวุธปีนโดยไม่ได้รับอนุญาต, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ, ทำ มี ค้า หรือจำหน่ายด้วยประการใดๆ ซึ่งวัตถุระเบิด (ดินปีนมีควัน) โดยไม่ได้รับอนุญาตฯ และเสพยาเสพติดให้โทษประเภท ๑ (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย " นำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย
จากการสืบสวนขยายผล พบว่า นายวีรยุทธฯ ซึ่งเป็นเจ้าของร้าน CHAROEN AIRSOFT ๔๒๘๙ มีการจำหน่ายสินค้าไปยังลูกค้าทั่วประเทศ ต่อมา วันที่ ๘ พ.ย. ๒๕๖๕ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ศปอส.ตร. เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนตำรวจนครบาลและตำรวจภูธร ๑-๙ พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงทำการวางแผนและระดมปิดล้อมตรวจค้นเครือข่ายซื้อขายอาวุธปืนและเครื่องกระสุนทางสื่อออนไลน์ทั่วประเทศ จำนวน ๒๐๙ จุดทั่วประเทศ
รวมผลการปฏิบัติ สามารถจับกุมผู้ต้องหา ทั้งสิ้น ๕๔ ราย
อาวุธปืน จำนวน ๑๑๐ กระบอก
เครื่องกระสุน จำนวน ๑๓,๓๒๐ นัด
วัตถุระเบิด จำนวน ๑๑ ลูก
ยาเสพติดให้โทษประเภท ๑ (เมทแอมเฟตามีน,ยาบ้า) จำนวน ๒๖ เม็ด
ยาเสพติดให้โทษประเภท ๑ (เมทแอมเฟตามีน,ยาไอซ์) จำนวน ๒๙.๑ กรัม
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอฝากถึงพี่น้องประชาชน เน้นย้ำคดีที่ส่งผลต่อพี่น้องประชาชนทั่วไป และการกระทำผิดทางออนไลน์ อาทิเช่น การหลอกลวงขายสินค้า รวมถึงการขายสินค้าผิดกฎหมายออนไลน์ การหลอกลวงให้ลงทุนแชร์ลูกโซ่ต่างๆ สามารถแจ้งเหตุผ่านสายด่วนของ ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ที่สายด่วนหมายเลข ๑๔๔๑ ตลอด ๒๔ ชั่วโมง และ สาย
ตรง ๐๘๑-๘๖๖๓๐๐๐ เวลาราชการ
สนับสนุนโดย
