ผวจ.นครศรีธรรมราช จัดพิธีบวงสรวง “องค์ศิวลึงค์ ครั้งที่ 10 หลังคืนสู่นครศรีธรรมราช”
วันเสาร์ที่ 12 พฤศจิกายน 2565 เวลา 18.00 น. ที่บริเวณจวนผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช นายอภินันท์ เผือกผ่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมด้วยนางพิชานันท์ เผือกผ่อง นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครศรีธรรมราช ประกอบพิธีบวงสรวง “องค์ศิวลึงค์ ครั้งที่ 10 หลังคืนสู่นครศรีธรรมราช” เสื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2565 โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ภาคเอกชน และผู้ที่มีความเลื่อมใสศรัทธาร่วมกว่า 100 คน
สำหรับการจัดพิธีบวงสรวง “องค์ศิวลึงค์ ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 10 หลังจากรับคืนสู่จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยได้จัดขึ้นเป็นประจำทุกวัน (ตั้งแต่ 3 พฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยกำหนดบวงสรวงไปจนถึงวันที่ 2 ธันวาคม 2565 โดยในวันนี้กำหนดให้มีการแสดงทางวัฒนธรรมรำมโนราห์ “ไข่เหลี้ยม ศรชัย” ให้ผู้ร่วมพิธีได้ชม
องค์ศิวลึงค์ที่ได้อัญเชิญกลับคืนสู่นครศรีธรรมราช ได้ถูกนำมาประดิษฐานไว้เป็นการชั่วคราวในจวนผู้ว่าราชการจังหวัด เชื่อว่าเป็นศิวลึงค์องค์สำคัญ ซึ่งมีขนาดใหญ่ ความสูง 198 ซม. กว้าง 30 ซม. มีน้ำหนักโดยประมาณถึง 385 กก. เป็นศิวลึงค์โบราณ อายุกว่า 1,300 ปี แกะสลักจากหินทราย ที่มีสภาพสมบูรณ์ โดยคาดว่าถูกเคลื่อนย้ายไปจากจังหวัดนครศรีธรรมราชในปี พ.ศ. 2524 เพื่อนำออกไปนอกประเทศ แต่ไม่สามารถเลื่อนย้ายออกไปนอกประเทศได้ ด้วยสาเหตุผู้ที่นำไปนั้นได้เสียชีวิตลง และได้มีการนำศิวลึงค์องค์ดังกล่าว มาถวายแก่พระครูโสภณประชานุกูล (จรัล อิทธิมนฺโต) เจ้าอาวาสวัดนารายณิการาม ต.เหล อ.กะปง จ.พังงา ซึ่งได้ดูแลเก็บรักษาองค์ศิวลึงค์ไว้เพื่อรอการตรวจสอบและหาที่มา และในปี พ.ศ. 2557 ทางกรมศิลปกรได้เข้าทำการสำรวจ ตรวจสอบจนแน่นชัดว่าเป็นของแท้ จึงได้ลงในประกาศราชกิจจานุเบกษาและขึ้นทะเบียนศิวลึงค์ดังกล่าวเป็นโบราณวัตถุ เมื่อวันที่ 28 เม.ย. 2557 หลังจากนั้นได้มีการประสานงานไปตามระเบียบ ขั้นตอนเพื่อทำการส่งมอบศิวลึงค์ดังกล่าวคืนสู่จังหวัดนครศรีธรรมราช
ทั้งนี้ จังหวัดนครศรีธรรมราช จะทำการเคลื่อนย้ายอีกครั้งในวันที่ 3 ธันวาคม 2565 เพื่อไปจัดเก็บ ณ โบสถ์พราหมณ์ หอพระอิศวร เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้เข้าสักการะกราบไหว้บูชาต่อไป….///
พรรณี มณีวรรณ/ข่าว
ขอบคุณภาพ/เลขา ผวจ.นคร
สรีพรรมราช
สนับสนุนโดย