ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เร่งลงพื้นที่ ติดตามสถานการณ์อุทกภัยและวาตภัย ในอำเภอกาญจนดิษฐ์ อำเภอไชยา และอำเภอท่าชนะ หลังฝนตกหนักต่อเนื่อง 2 วัน ย้ำเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงน้ำหลากดินโคลนถล่ม สั่งทุกหน่วยพร้อมช่วยชาวบ้านตลอด 24 ชั่วโมง
วันนี้ (4 ธ.ค.65) นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมด้วย นายบุญเรือง หลงละลวด หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสุราษฎร์ธานี นายพูลศักดิ์ โสภณปทุมรักษ์ นายอำเภอกาญจนดิษฐ์ ลงพื้นที่ ตำบลท่าอุแท และ หมู่ 11 ตำบลปากแพรก อำเภอดอนสัก ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม หลังมีฝนตกต่อเนื่อง ทั้งในพื้นที่สุราษฎร์ธานีและบริเวณต้นน้ำจากนครศรีธรรมราช ตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 2 ธันวาคมเป็นต้นมา ล่าสุดมวลน้ำได้ไหลหลากผ่านมาทางอำเภอกาญจนดิษฐ์และอำเภอดอนสัก ส่งผลให้เส้นทางสัญจรในหลายพื้นที่ ได้แก่ ถนนข้ามคลองสายคลองคราม-วังเคียน ระหว่าง หมู่ 11 และหมู่ 13 ตำบลปากแพรก และที่ หมู่ 6 ตำบลปากแพรกไปยัง หมู่ 12 ตำบลท่าอุแท มีน้ำท่วมสูง และเชี่ยว รถไม่สามารถสัญจรได้ แต่ชาวบ้านยังสามารถเส้นทางสัญจร อ้อมไปทางหมู่บ้านอื่น ยังไม่ได้ถูกตัดขาด อย่างไรก็ตามพื้นที่ดังกล่าว เป็นทางน้ำไหลผ่านประจำ และระดับน้ำขึ้นลงเร็ว หากปริมาณฝนตอนบนลดลง ก็จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติในเวลาไม่นาน
จากนั้นผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมด้วย นายชวลิต โรจนรัตน์ นายอำเภอไชยา ได้ลงพื้นที่หมู่ที่ 1 ตำบลตะกรบ อำเภอไชยา เพื่อติดตามการให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ถูกลมกระโชกแรงพัดบ้านเรือนเสียหาย ประมาณ 4 หลัง ส่วนใหญ่เป็นกระเบื้องหลังคาถูกลมพัดปลิวแตกหัก ซึ่งอำเภอไชยาพร้อมด้วยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้เร่งช่วยเหลือซ่อมแซมบ้านเรือนให้กับประชาชนให้สามารถอาศัยอยู่ได้เบื้องต้นแล้ว โดยผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ให้กำลังใจพร้อมมอบถุงยังชีพให้ผู้ประสบภัย และ ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณประตูระบายน้ำคลองท่าม่วง อำเภอท่าชนะเพื่อติดตามสถานการณ์น้ำ โดยมี นายสำนวน ทองศรี นายอำเภอท่าชนะ พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่โครงการชลประทานจังหวัดสุราษฎร์ธานี รายงานว่า ขณะนี้ชลประทานได้เปิดบานประตูระบายน้ำ และเตรียมติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำ เพื่อเร่งระบายน้ำออกสู่ทะเลให้มากที่สุดก่อนที่จะมีน้ำทะเลหนุนในอีก 3-4 วันข้างหน้า ก่อนจะเดินทางต่อไป สำรวจถนนสายป่าเว - ไชยา ที่มีน้ำท่วมผิวจราจร ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานีได้สั่งการให้อำเภอไชยาและเจ้าหน้าที่ในท้องถิ่นได้ทำสัญลักษณ์ขอบทาง และติดป้ายแจ้งเตือน เพื่อป้องกันประชาชนได้รับอุบัติเหตุ
ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานีเน้นย้ำว่าในห้วง 2-3 วันจากนี้ จะยังมีปริมาณฝนตกต่อเนื่องในหลายพื้นที่ จึงขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงได้ติดตามข่าวสารการแจ้งเตือนจากทุกช่องทางของจังหวัดสุราษฎร์ธานี และใช้ชีวิตด้วยความไม่ประมาท โดยขณะนี้ ส่วนราชการทุกส่วนได้เตรียมความพร้อมเพื่อให้การช่วยเหลือ ผู้ประสบภัยตลอด 24 ชั่วโมง
สนับสนุนโดย
