วันศุกร์ที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566

สำนักงานหนังสือพิมพ์ทันใจนิวส์

สัมภาษณ์ นายธีรพล ขุนเมือง
คณะกรรมการส่งเสริมกิจการมหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี กรรมการโดยตำแหน่ง
ปัจจุบันมหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานีมีอัตลักษณ์สำคัญทางด้านวิศวกรสังคม และในอนาคต
มุ่งสู่วิศวกรสังคมมืออาชีพ หมายความว่า ต่อไปมหาวิทยาลัยแห่งนี้จะเป็นความคาดหวังของสังคมโดยเฉพาะชาวใต้ในการสร้างคนที่มีคุณภาพ ให้มีความรู้แล้วสามารถออกไปทำงานได้ทันทีหลังจบการศึกษา ซึ่งสิ่งนี้
เป็นสิ่งจำเป็นของทุกมหาวิทยาลัย 
แต่ในมุมมองของผมคิดว่า มหาวิทยาลัยแห่งนี้มีศักยภาพเพียงพอและมีความพร้อมมาก ๆ ซึ่งคิดว่า
เป็นที่คาดหวังของชาวใต้ และถ้าเกิดภาคอื่นเห็นว่ามาเรียนที่นี้แล้วมีคุณภาพจะทำให้คนภาคอื่น ๆ ก็อยากมาเรียนส่งผลให้มีนักศึกษาเพิ่มมากขึ้น 
ในอีก 10 ปีข้างหน้ามหาวิทยาลัยต้องใช้ตลาดนำในการเรียน เมื่อเรียนแล้วมีงานทำ เป็นที่ต้องการของสถานประกอบการ และมั่นใจได้ว่าเมื่อนักศึกษาจบไปแล้วไม่ตกงาน ดังนั้นมหาวิทยาลัยจึงจำเป็นผลิตบัณฑิตให้เป็นวิศวกรสังคมมืออาชีพ คือปฏิบัติได้ คิดเก่ง สื่อสารเยี่ยม ประสานงานดีและมีคุณธรรม 
โดยปัจจุบันมหาวิทยาลัยมีจุดเด่นสำคัญคือมีการเปิดสอนคณะพยาบาลศาสตร์ซึ่งเป็นความโดดเด่นที่แตกต่างจากมหาวิทยาลัยราชภัฏอื่นๆ มีโครงการ กศ.บท. ข้อนี้สำคัญเพราะมหาวิทยาลัยต้องอยู่คู่กับชุมชนท้องถิ่นดังนั้นมหาวิทยาลัยต้องพัฒนาคนในชุมชนให้มีคุณภาพ
ข้อกังวลของมหาวิทยาลัยในสถานการณ์ปัจจุบัน คือ เมื่อจำนวนนักศึกษาลดน้อยลงเราจะทำอย่างไรไม่ให้นักศึกษาลดน้อยลงมากกว่าเดิม ดังนั้น จึงเป็นความท้าทายของมหาวิทยาลัย โดยต้องปรับ Mindset 
ในทุกด้าน เช่น ด้านครู ต้องเน้นด้านจิตวิญญาณของความเป็นครู เน้นการสอนทั้งทฤษฎีและปฏิบัติเพื่อให้
เมื่อนักศึกษาจบไปแล้วสามารถปฏิบัติงานได้ ด้านหลักสูตร ต้องปรับให้ทันสมัยและสอดคล้องกับความต้องการของตลาด ด้านความพร้อมของเครื่องมือและอุปกรณ์ เพื่อสนับสนุนการเรียนการสอน โดยการสร้างเครือข่ายกับสถานประกอบการต่างๆ เพื่อให้นักศึกษาได้ฝึกปฏิบัติใช้เครื่องมือจากสถานประกอบการจริง  ต้องนำวิธีการสหกิจศึกษาเข้ามาเกี่ยวข้องอย่างเข้มข้นเพราะเราต้องเน้นปฏิบัติจริงทำงานจริง เพราะบางคนเน้นแต่ทฤษฎี อาจต้องมีการปรับ ในเชิงปฏิบัติ 70 เปอร์เซ็นต์ และ ทฤษฎี 30 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งต้องไปเรียนยังสถานประกอบการ เช่น โรงงาน เพราะเมื่อจบออกมาถ้ามีผลงานดีอาจได้ทำงานในสถานประกอบการนั้นๆ ได้เลย 
การพัฒนาทักษะให้แก่นักศึกษาต้องเน้นการมีทักษะที่หลากหลาย (Multi skill) มหาวิทยาลัยต้องมีวิธีที่ทำให้ในแต่ละคณะสามารถเรียนโดยใช้หลักสูตรร่วมกันได้ เช่น เป็นนักศึกษาคณะครุศาสตร์แต่ก็สามารถเรียนรู้วิชาของคณะนิติศาสตร์ไปได้ด้วย เพราะในชีวิตจริงไม่ได้ใช้แค่ด้านใดด้านหนึ่งโดยเฉพาะซึ่งเป็นเรื่องสำคัญในสังคมสมัยใหม่ และสถานประกอบการส่วนใหญ่จะยอมรับนักศึกษาที่มีความสามารถหลายด้าน โดยเฉพาะทักษะทางด้านภาษาต้องเน้น ภาษาจีน อังกฤษ ญี่ปุ่น  เนื่องจากมหาวิทยาลัยตั้งอยู่ในเมืองท่องเที่ยว และทักษะทางด้านเทคโนโลยีต้องมีเทคโนโลยีที่ทันสมัยและให้นักศึกษาใช้งานได้จริง 
ด้านการวิจัยมหาวิทยาลัยจะทำอย่างไรให้การวิจัยมีประโยชน์ต่อชุมชนอย่างแท้จริงสามารถจับต้องได้ เช่น ไปช่วยเหลือทำผลิตภัณฑ์ชุมชนวิสาหกิจชุมชนในกลุ่มชาวบ้านต่างๆ ไปช่วยชุมชนโดยนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีไปใช้ในการลดต้นทุนการผลิต เพิ่มมูลค่าของการจำหน่ายจากทุนเดิมและสามารถเพิ่มผลกำไร
และลดต้นทุนให้ชาวบ้านเป็นต้น และต้องแสวงหาความร่วมมือทุนของการวิจัยจากภายนอกด้วย 
ด้านการบริการวิชาการจากพื้นที่รับผิดชอบของมหาวิทยาลัย 3 จังหวัด ได้แก่ ระนอง ชุมพรและ
สุราษฎร์ธานี มหาวิทยาลัยต้องทำให้ชาวบ้านมีความรู้สึกว่า มรส. ทำให้ชาวบ้านกินดีอยู่ดี ด้านการทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยตั้งอยู่ในพื้นที่ภาคใต้ที่มีวัฒนธรรมเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ ดังนั้น มหาวิทยาลัย
จะต้องมีส่วนร่วมในการสร้างแบรนด์และให้แต่ละคณะเข้ามามีบทบาทในการดำเนินการเพื่อสร้างมูลค่า
หรือเพิ่มมูลค่าของศิลปวัฒนธรรมให้มากขึ้น
ด้านการพัฒนาบุคลากรข้อนี้สำคัญมาก เพราะมหาวิทยาลัยจะก้าวเดินไม่ได้เลยถ้าบุคลากรขาดขวัญและกำลังใจ เพราะฉะนั้นมหาวิทยาลัยต้องมีการพัฒนาการเรียนการสนับสนุนทุกสายงาน ไม่ว่าจะเป็น
สายวิชาการหรือสายสนับสนุนในด้านการเข้าสู่ตำแหน่งที่สูงขึ้นรวมทั้งสวัสดิการต่าง ๆ เพื่อให้บุคลากรมีขวัญกำลังใจในการทำงาน ดังนั้นค่าตอบแทนเงินเดือนก็ส่วนหนึ่งและอีกส่วนหนึ่งต้องจัดสรรเป็นสวัสดิการ
ให้บุคลากรให้ดีและเหมาะสม ซึ่งเมื่อบุคลากรเกษียณราชการไปแล้วจะได้มีเงินจำนวนหนึ่งไปใช้ต่อไป 
ส่วนจำนวนบุคลากรที่มีอยู่นั้นคิดว่าเหมาะสมดีแล้วทั้งสายวิชาการและสายสนับสนุน
ด้านการรับนักศึกษาหากมีการจัดตั้งโรงเรียนสาธิต ซึ่งเป็นสิ่งที่เหมาะสมอย่างยิ่งเพราะจะทำให้นักศึกษาได้เตรียมพร้อมก่อนที่จะเข้ามาอยู่ในมหาวิทยาลัย เหมือนเป็นการปูพื้นฐานไปในตัวและอีกส่วนหนึ่ง
ที่อยากให้มีคือการประชาสัมพันธ์ เช่น อาจารย์ที่ไปแนะแนวการศึกษากับโรงเรียนต่าง ๆ อาจสร้างเครดิต
ให้อาจารย์สามารถรับนักเรียนแล้วมีโปรโมชัน เช่น ถ้าเด็กมาเรียนจากการแนะแนวให้มีส่วนลดค่าใช้จ่ายบางส่วนตามความเหมาะสมเป็นต้น หรือได้รับสิทธิพิเศษจากมหาวิทยาลัย ซึ่งจะทำให้คนทำงานอย่างอาจารย์ที่ออกไปแนะแนวมีความสุขและสร้างเครดิตไปด้วย 
ทั้งนี้ขอชื่นชมมหาวิทยาลัยที่ได้รับรางวัลต่าง ๆ และได้ถูกจัดอันดับให้เป็นมหาวิทยาลัยอันดับต้น ๆ ทั้งของภาคใต้ ทั้งในระดับประเทศและระดับต่างประเทศ ขอให้เน้นการส่งเสริมพัฒนาโดยเฉพาะบุคลากรครูต้องพัฒนาตนเองก่อนเพื่อจะไปสอนเด็กนักศึกษาให้เก่ง “ถ้าครูไม่เก่งเด็กไม่เก่ง”
ปัจจุบันจะเห็นว่ามหาวิทยาลัยมีรูปแบบการจัดการบริหารที่เหมาะสม แต่ควรเพิ่มเติมในส่วนของประชาสัมพันธ์มหาวิทยาลัยให้เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น เพราะเป็นช่องทางหนึ่งที่จะทำให้เด็กอยากมาเรียนที่ มรส. จะเห็นว่ามหาวิทยาลัยมีประเด็นยุทธศาสตร์ที่ชัดเจนไม่ว่าจะเป็นเรื่องการพัฒนาท้องถิ่น การพัฒนาครู รวมถึงยุทธศาสตร์ด้านอื่น ๆ รวมทั้งการบริหารจัดการก็เหมาะสมแล้วแต่อาจเพิ่มเติมการใช้เครือข่ายจากการออกไปบริการวิชาการชุมชนอีกทางหนึ่งด้วย
 รายงานข่าว

โพสต์ข่าวแนะนำ

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ส่งต่อธารน้ำใจผู้มีจิตศรัทธา มอบเงินกว่า 4.7ล้านบาท สงเคราะห์ผู้ป่วยขาดแคลน ในเขตกรุงเทพฯ ปริมณฑล และภูมิภาค รวม 71 แห่ง

สำนักงานหนังสือพิมพ์ทันใจนิวส์ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ส่งต่อธารน้ำใจผู้มีจิตศรัทธา มอบเงินกว่า 4.7ล้านบาท สงเคราะห์ผู้ป่วยขาดแคลน ในเขตกรุงเทพฯ ...

ข่าวดัง ยอดนิยม คนสนใจ