วันพฤหัสบดีที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2566

สำนักงานหนังสือพิมพ์ทันใจนิวส์

ผบช.ภ.5 เร่งรัดติดตามคดีฆ่า สั่งรื้อคดีที่เกี่ยวเนื่อง ดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดโทษหนักถึงประหาร
วันที่ 3 พฤษภาคม 2566 เวลา 13.00 น.  พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย ผบช.ภ.5 เป็นประธานในการประชุมคณะทำงานและส่วนที่เกี่ยวข้อง พร้อมเร่งรัดติดตามคดีฆ่าเซลส์สาว ในพื้นที่ สภ.สันทราย และคดีข่มขืนในพื้นที่ สภ.ดอยสะเก็ด ณ ห้องประชุม ศปก.ภ.จว.เชียงใหม่ 

พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย ผบช.ภ.5 เปิดเผยหลังจากสิ้นเสร็จการประชุมว่า ในวันนี้เชิญรองผู้บัญชาการที่ดูแลสืบสวนสอบสวน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ และผู้กำกับสถานีตำรวจ ที่เกี่ยวข้องกับคดีฆ่าเซลล์สาว มาทำการประชุมติดตามความคืบหน้า และเร่งรัดในการดำเนินคดี

เบื้องต้นจากพยานหลักฐานทราบว่า ผู้ต้องหารายนี้มีประวัติการเหตุในหลาย ๆ ท้องที่ ทั้งในพื้นที่นครบาล และในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ จึงได้สั่งการให้นำเอาข้อมูลในคดีต่าง ๆที่เกิดขึ้นในจังหวัดเชียงใหม่ มาเปรียบเทียบกับแผนประทุษกรรมของผู้กระทำความผิดในคดีนี้ หากพบว่ามีความเกี่ยวพันเชื่อมโยง ก็จะดำเนินคดีต่อไป 

ที่สำคัญคือให้นำหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์มาทำการเปรียบเทียบและยืนยันว่า ผู้ต้องหารายนี้จะเกี่ยวข้องกับคดีดังกล่าวข้างต้นหรือไม่  หรือจะมีคดีอื่นที่มีลักษณะเดียวกันนี้อีกหรือไม่ 

นอกจากนี้ ยังได้สั่งการให้ กก.สส.ภ.จว.เชียงใหม่ ประสานกับ บช.น. ,ภ.1 ,ภ.2 และ ภ.7  โดยเฉพาะ ภ.7  ว่ามีคดีที่มีแผนประทุษกรรม หรือมีการกระทำความผิดใกล้เคียงกันและยังไม่ได้ตัวผู้ต้องหา หรือมีคดีนอกเหนือจากที่มีอยู่ตอนนี้ เพื่อที่จะได้ทำให้การดำเนินคดีกับผู้ต้องหารายนี้ครบถ้วน และสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ สิ่งสำคัญก็คือให้ประสานกับทางศาล โดยพนักงานสอบสวนได้คัดค้านการประกันตัวผู้ต้องหารายนี้  รวมถึงเมื่อการสอบสวนเสร็จแล้วจะต้องมีการฟ้องให้เพิ่มโทษกับผู้ต้องหาซึ่งเคยก่อคดีในลักษณะนี้มาแล้วหลายครั้ง
สำหรับกรณีที่เกิดขึ้นในท้องที่ของ สภ.ดอยสะเก็ด จากการตรวจสอบในเบื้องต้นทราบว่า พนักงานสอบสวนได้ดำเนินการตามกฎหมาย มาตรา 134 วรรค 1 ถูกต้องครบถ้วนแล้ว ส่วนการใช้ดุลพินิจตาม มาตรา134 วรรค 5 ว่าเหมาะสมหรือสมบูรณ์หรือไม่ ได้สั่งการให้ผู้การจังหวัดเชียงใหม่ได้ทำการตรวจสอบข้อมูลหาข้อเท็จจริง

อย่างไรก็ตาม สำหรับคดีในท้องที่ของ สภ.ดอยสะเก็ด ต้องรอผลตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์ ซึ่งอาจจะต้องใช้เวลา เพราะผู้ต้องหาก่อเหตุในหลายท้องที่ และมีพยานหลักฐานโดยเฉพาะพยานบุคคลที่เกี่ยวข้องหลายคน 

ทั้งนี้ ขอเน้นย้ำว่าเร็วหรือช้าไม่สำคัญ แต่ผลสัมฤทธิ์ของการดำเนินคดีต้องเกิด การรวบรวมพยานหลักฐานให้กระจ่าง ให้หมดข้อสงสัย เพื่อให้ศาลได้พิจารณาลงโทษผู้ต้องหาได้ครบถ้วนและดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยในคดีนี้เป็นคดีที่มีการข่มขื่นกระทำชำเราโดยมีอาวุธ ซึ่งเป็นการกระทำผิดตามประมวลกฎอาญา มาตรา 276 มีอัตราโทษ จำคุกตั้งแต่ 15 ปี ถึง 20 ปี และปรับตั้งแต่สามแสนถึงสี่แสนบาท หรือ จำคุกตลอดชีวิต
สมาคมหนังสือพิมพ์ส่วนภูมิภาคแห่งประเทศไทย
สนับสนุนโดย
 รายงานข่าว

โพสต์ข่าวแนะนำ

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง สร้างโอกาส สร้างชีวิต แก่ชาวอำนาจเจริญอย่างยั่งยืน มอบอุปกรณ์ประกอบอาชีพให้แก่ครัวเรือนยากจน มอบจักรยานให้แก่โรงเรียนในพื้นที่ชนบท พร้อมนำหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ออกบริการประชาชนฟรี

สำนักงานหนังสือพิมพ์ทันใจนิวส์ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง สร้างโอกาส สร้างชีวิต แก่ชาวอำนาจเจริญอย่างยั่งยืน มอบอุปกรณ์ประกอบอาชีพให้แก่ครัวเรือนยาก...

ข่าวดัง ยอดนิยม คนสนใจ

ข่าวดังรายสัปดาห์ HOT NEWS