ลุงตู่เปิดเวทีปราศรัยใหญ่ กลางเมืองหาดใหญ่ ย้ำนโยบายหลัก ก่อนโปรยยาหอม "รักแล้ว รักอยู่ รักต่อ รักคนใต้ พี่ตู่รักจริงไม่หวังแต่ง รักอย่างแรง" พร้อมแห่ส่องทะเบียนรถยนต์
วันที่ 30 เมษายน 2566
ต่อมาเวลา 17.00 น. บรรยากาศเวทีหาเสียงผู้สมัคร ส.ส. ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ตั้งแต่เขต 1-เขต 9 บริเวณที่ดินแยกสะพานดำ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ซึ่งประชาชนแต่ละพื้นที่ของจังหวัดสงขลา ต่างทยอยเดินทางมาฟังคำปราศัยของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ซึ่งในวันนี้ได้เดินทางลงพื้นที่จังหวัดสงขลา เพื่อหาเสียงให้กับผู้ลงสมัครของพรรคแต่ละเขตช่วงโค้งสุดท้ายของการเลือกตั้ง โดยวันนี้มีประชาชนประมาณ 15,000 คน เข้าร่วมฟังคำปราศรัย
ขณะที่รอ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เดินทางมาขึ้นเวทีปราศรัยหาเสียง ทางผู้ลงสมัคร ส.ส. แต่ละเขตของจังหวัดสงขลา ก็ได้ขึ้นเวทีปราศรัยและพูดนโยบายต่างๆในช่วงที่ผ่านมา
ต่อมาเวลา 18.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะแคนดิเดต นายกรัฐมนตรี ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ปราศรัยหาเสียงให้กับผู้สมัครลงรับเลือกตั้ง ส.ส. 9 เขตจังหวีดสงขลา ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่ลานแยกสะพานดำ เทศบาลนครหาดใหญ่ โดยมีประชาชนเข้าฟังการปราศรัยมากกว่า 15,000 คน ซึ่งก่อนปราศรัย พล.อ.ประยุทธ์ และผู้บริหารพรรค รวมทั้งบรรดาผู้ลงสมัครได้ยืนบนเวทีและหันหลังให้กับประชาชนก่อนที่จะให้ช่างภาพได้ถ่ายรูปที่มี ประชาชนอยู่ด้านหลัง
จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ได้ปราศรัยและพูเน้นย้ำว่าช่วงที่ผ่านมา ว่า มีการนำงบประมาณลงมายังภาคใต้ พัฒนาภาคใต้มากกว่า 2 แสน 8 หมื่นล้านพันบาท ซึ่งขณะนี้ยังเหลือถนนบางสายที่จะเชื่อมต่อ กับเส้นทางต่างๆซึ่งหากได้เป็นรัฐบาล ก็จะสานต่อโครงการทั้งหมด ซึ่งจะทำให้มากขึ้น และการใช้ประโยชน์ จากดิจิตอล เช่น แอพกระเป๋าตังค์ และ G wallet รวมทั้งโครงการคนละครึ่ง ที่ได้ทำให้ แล้วจะพัฒนาต่อไปเพื่อให้ประชาชนได้เข้าถึงมากยิ่งขึ้นและในสงขลาจังหวัดทั้ง 9 เขต ก็ขอเหมาทั้ง 9 เขต
ซึ่งอยากถามว่าคนใต้รักใครรักจริงใช่หรือไม่
วันนี้นั่งรถไฟยังช้าอยู่ในอนาคตรถไฟทางคู่ใกล้จะเสร็จแล้ว ต่อไปก็จะทำรถไฟความเร็วสูงเชื่อมโยงไปยังปาดังเบซาร์ประเทศมาเลเซีย และเชื่อมโยงกับโครงข่ายทั้งประเทศ และหากได้เป็นรัฐบาลก็จะได้ทำต่อ
ตนไม่เข้าใจว่าทำไมวันนี้ยังโดนด่าซึ่งที่ผ่านมาก็โดนมามากแล้ว และสิ่งที่ทำ ก็ทำเพื่อพวกเราทุกคน ก็ยังไม่เข้าใจทำไมยังโดนด่ามากขึ้น
วันนี้เรากำลังเดินหน้าไปสู่เศรษฐกิจสร้างสรรค์ มีการจัดหารายได้ให้ได้ 4 ล้านล้านบาท และในเรื่องการลงทุน ด้านต่างๆ แล้วอยากจะย้ำว่าไทยไม่ได้ พบกับซาอุดิอาระเบียมากกว่า 32 ปีแล้ว แต่รัฐบาลที่ผ่านมา ทำให้ มีการเชื่อมสัมพันธ์กันอีกครั้งพร้อมกับเงินลงทุน 200,000 ล้านบาท และยังส่งแรงงาน ไปแล้วมากกว่าหมื่นคน มีรายได้เดือนละ 60,000 บาท แต่ก็ต้องพัฒนาแรงงานไทยให้เป็นหัวหน้างานให้มากขึ้นรวมทั้งโครงการบ้านผู้มีรายได้น้อย ก็จะทำให้ได้มากกว่านี้ และโครงการเบี้ยสำหรับผู้มีรายได้น้อย ซึ่งจะต้องหาเงิน กองทุนจำนวนหนึ่ง เพื่อให้ผู้มีรายได้น้อยได้กู้
นอกจากนี้ไทยยังเป็นศูนย์กลางด้านการรักษาพยาบาล ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่มีโรงพยาบาลด้านต่างๆ ซึ่งมีโรงพยาบาล หลากหลายให้ประชาชนได้ใช้บริการ และการรักษาก็สามารถ ใช้วิดีโอคอล ในการรักษาได้
นอกจากนี้ยังมีโครงการเกษตรอินทรีย์หรือสินค้าทางการเกษตรที่ขึ้นทะเบียน GI รัฐบาลที่ผ่านมาก็ได้จัดทำแล้ว และการใช้ยางพาราในประเทศต้องใช้ เพิ่มขึ้นมากกว่า 50% เพราะขายไปต่างประเทศสู้ เขาไม่ได้เนื่องจากต้นทุนของเราสูง และหากเก็บไว้นานก็จะเสียหาย
คนที่นั่งอยู่ไกลๆ ใจถึงใจ จำหน้าได้หมดทหารสายตาดี จำหน้าได้หมด 5 คนกำลังนั่งกินไอติมอยู่ พี่ตู่เป็นคนตลกนะ จริงๆแล้วตน เป็นคนไม่มีอะไรกับใคร บางครั้งก็ ที่เห็นอยู่เพราะตอนต้องสั่งการ ตัวจริงน่ารักจะตาย สำหรับตนและคนในพรรครวมไทยสร้างชาติ รักแล้ว รักอยู่ รักต่อ อย่าทิ้งพี่ตู่และพรรครวมไทยสร้างชาติ ถ้าไม่ทิ้งก็ขอให้กลายทั้ง 2 ใบ รักจังฮู้ อย่าไปฟังใครขอให้ฟังพี่ตู่คนเดียว พี่ตู่รักจริงไม่หวังแต่ง รักอย่างแรง เดี๋ยวกลับไปวันนี้ละเมอแน่นอน
ทั้งนี้ช่วง ท้ายปราศรัยมีชาวบ้านถามว่าอายุเท่าไหร่ พล.อ.ประยุทธ์ ตอบว่าอายุ 69 ปี อายุร่างกาย 60 ปี อายุใจ 50 ปี ถามทำไมจะเอาไปซื้อหวยอีกหรอและประชาชนได้ถามว่า เหตุใดยังดูหนุ่ม พล.อ.ประยุทธ์ ก็ตอบว่า มีความสุขที่ได้ทำให้ประเทศไทย ได้ความรักจากประชาชน ใครไม่รักตนไม่เป็นไรแต่ตนก็รักเขา และคืนนี้กลับไปขอให้ฝันถึงพี่ตู่กับพรรครวมไทยสร้างชาติ และยืนยันว่าพรรครวมไทยสร้างชาติพร้อมรวมพลังกับคนใต้ทุกคนและชาวจังหวัดสงขลาเพื่อให้เดินหน้าไปพร้อมกันด้วยความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน เดินไปด้วยความแข็งแรง
ต่อมาหลัง พล.อ.ประยุทธ์ ปราศรัยบนเวทีทิ้งท้าย ทางพิธีกรบนเวทีได้เชิญชวนให้ประชาชนที่มาฟังการปราศรัยร่วมกันเปิดแฟลชโทรศัพท์ เพื่อให้เป็นทะเลดาว พร้อมกับร้องเพลงของพรรครวมไทยสร้างชาติ ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ได้รับดอกไม้จากประชาชนหน้าเวที และขนาดลงจากเวที ก็ชูมือด้านขวาที่ใส่อุปกรณ์พยุงข้อมือ เนื่องจากว่ามีอาการบาดเจ็บหลังถูกประชาชนที่มาฟังการปราศรัยช่วงเช้าที่อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา ดึงข้อมือ จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ก็เดินลงจากเวทีไปที่รถยนต์โตโยต้า อัลฟาร์ด ทะเบียน ฮ-9552 กรุงเทพมหานคร เพื่อเดินทางกลับกรุงเทพมหานคร โดยมีประชาชนจำนวนมากที่จะไม่พลาดแห่ส่องเลขทะเบียนรถยนต์ของ พล.อ.ประยุทธ์
ซัมซูดิน เจ๊ะแดร์ ศูนย์ข่าวหนังสือพิมพ์ทันใจนิวส์จังหวัดสงขลา
สมาคมหนังสือพิมพ์ส่วนภูมิภาคแห่งประเทศไทย
สนับสนุนโดย
