วันศุกร์ที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2566

สำนักงานหนังสือพิมพ์ทันใจนิวส์

ข่าวประชาสัมพันธ์
พิษณุโลก  แขวงทางหลวงชนบท ส่งทีมตรวจสอบสะพานขนาดใหญ่ หวั่นส่งผลกระทบจากแผ่นดินไหว
วันที่ 29 มิถุนายน 2566 ภายหลังที่กรมอุตุนิยมวิทยา ได้ออกประกาศ เรื่องเกิดแผ่นดินไหวจุดศูนย์กลางอยู่บริเวณ ต.ไผ่ล้อม อ.บางกระทุ่ม จ.พิษณุโลก ที่ละติจูด 16.558 องศาเหนือ ลองจิจูด 100.368 องศาตะวันออก ขนาด 4.5 ความลึก 5 กิโลเมตร ได้รับแจ้งรู้สึกสั่นไหวบริเวณ จังหวัดพิษณุโลก จังหวัดพิจิตร จังหวัดกำแพงเพชร หากมีรายละเอียดเพิ่มเติมจะแจ้งให้ทราบโดยด่วนต่อไป
ประกาศ ณ วันที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2566 เวลา 00.37 น.ตามที่รายงานข่าวไปแล้วนั้น


รายงานข่าวแจ้งว่า ในเขตอำเภอเมืองพิจิตร หลายตำบลได้รับรู้แรงสั่นสะเทือนแผ่นดินไหวครั้งนี้จุดศูนย์กลางอยู่ที่อำเภอบางกระทุ่มจังหวัดพิษณุโลก พื้นที่ใกล้เคียง อำเภอเมืองพิจิตร


ทางด้านนายกล้าหาญ ทารักษา ผู้อำนวยการแขวงทางหลวงชนบทพิษณุโลก กล่าวว่า การเกิดแผ่นดินไหวครั้งนี้ นับว่ารุนแรงในทางวิศวกรรมศาสตร์ถือเป็นเรื่องใหญ่
เพราะพิษณุโลกไม่ได้อยู่ในรอยแยกวงแหวนไฟ หรือลอยเลื่อน อาจต้องมีตรวจสอบอาคารสูงในพื้นที่จังหวัดพิษณุโลกกันอย่างเร่งด่วน รวมถึงสะพานใหญ่ทุกตัว

ผู้อำนวยการแขวงทางหลวงชนบทพิษณุโลก กล่าวอีกว่า กรณีเกิดเหตุการณ์นี้ ตนได้มอบหมายให้ส่วนปฏิบัติการ สำนักงานแขวงทางหลวงชนบท ไปตรวจสอบสะพานขนาดใหญ่ในพื้นที่รับผิดชอบที่มีรถขนาดใหญ่วิ่งผ่านไป-มา อาทิ สะพานสุพรรณกัลยา แม้เพิ่งยกไปให้เทศบาลนครพิษณุโลกดูแล ส่วนสะพานพระราชวังจันทน์ เป็นสะพานเหล็ก ทั้ง 2 แห่ง ไม่พบความเสียหายแต่อย่างใด ส่วนในพื้นที่อำเภอบางกระทุ่ม  มี 2 สะพาน คือ สะพานปากพิง และสะพานวัดไพรสุวรรณ ซึ่งในจังหวัดพิษณุโลก มีสะพานในความรับผิดชอบของทางหลวงชนบท 40 สะพาน 


กฎกระทรวงกำหนดเรื่องการต้านทานแรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหวฉบับใหม่ กระทรวงกำหนดเรื่องการต้านทานแรสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหวฉบับใหม่กฎกระทรวงกำหนดเรื่องการต้านทานแรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหวฉบับใหม่กระทรวงมหาดไทยออก “กฎกระทรวงกำหนดการรับน้ำหนัก ความต้านทาน ความคงทนของอาคาร และพื้นดินที่รองรับอาคารในการต้านทานแรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหว พ.ศ. 2564″ ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2564 เพื่อใช้บังคับแทนกฎกระทรวงกำหนดการรับน้ำหนักฯ ฉบับเดิม พ.ศ. 2550 โดยให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนด 180 วันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป

กฎกระทรวงฉบับใหม่นี้ได้ปรับปรุง
บริเวณที่อาจได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหวให้เหมาะสมกับสภาพการณ์ปัจจุบันที่พบว่ามีพื้นที่เสี่ยงภัยแผ่นดินไหวในประเทศมากขึ้น จากเดิมมี บริเวณเฝ้าระวัง บริเวณที่ 1 และบริเวณที่ 2 โดยแบ่งใหม่เป็น 3 บริเวณ ได้แก่

บริเวณที่ 1 (เดิมคือ บริเวณเฝ้าระวัง) มี 14 จังหวัด ได้แก่ กระบี่ ชุมพร สงขลา สุราษฎร์ธานี โดยมีหลายจังหวัดที่เพิ่มเติมขึ้นมา ได้แก่ ตรัง นครพนม นครศรีธรรมราช บึงกาฬ ประจวบคีรีขันธ์ พิษณุโลก เพชรบุรี เลย สตูล และหนองคาย และมีบางจังหวัดที่ปรับย้ายไปเป็นบริเวณที่ 2 (พังงา ภูเก็ต ระนอง)

บริเวณที่ 2 (เทียบได้กับ บริเวณที่ 1 เดิม) เป็นบริเวณที่อาจได้รับผลกระทบในระดับปานกลาง มี 17 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร โดยมีจังหวัดที่ปรับย้ายมาจากบริเวณเฝ้าระวังเดิม คือ พังงา ภูเก็ต ระนอง และมีจังหวัดที่เพิ่มเติมขึ้นมา ได้แก่ กำแพงเพชร ชัยนาท นครปฐม นครสวรรค์ พระนครศรีอยุธยา ราชบุรี สมุทรสงคราม สุพรรณบุรี และอุทัยธานี

บริเวณที่ 3 (เทียบได้กับ บริเวณที่ 2 เดิม) เป็นบริเวณที่อาจได้รับผลกระทบในระดับสูง มี 12 จังหวัด ได้แก่จังหวัดเดิม 10 จังหวัด คือ กาญจนบุรี เชียงราย เชียงใหม่ ตาก น่าน พะเยา แพร่ แม่ฮ่องสอน ลำปาง และลำพูน และเพิ่มขึ้น 2 จังหวัด คือ สุโขทัย และอุตรดิตถ์
ปรีชา นุตจรัส รายงานพิษณุโลก
สมาคมหนังสือพิมพ์ส่วนภูมิภาคแห่งประเทศไทย
สนับสนุนโดย
 รายงานข่าว

โพสต์ข่าวแนะนำ

ประธานกต.ตร.สน.ชนะสงคราม พร้อมด้วย ผกก.สน.ชนะสงคราม และประธานกต.ตร.จว.นนทบุรี และคณะกต.ตร.สน.ชนะสงคราม มอบถุงยังชีพ (ข้าวสาร,อาหารแห้ง) แก่ครอบครัวข้าราชการตำรวจ สน.ชนะสงคราม

สำนักงานหนังสือพิมพ์ทันใจนิวส์ ประธานกต.ตร.สน.ชนะสงคราม พร้อมด้วย ผกก.สน.ชนะสงคราม และประธานกต.ตร.จว.นนทบุรี และคณะกต.ตร.สน.ชนะสงคราม มอบถุง...

ข่าวดัง ยอดนิยม คนสนใจ

ข่าวดังรายสัปดาห์ HOT NEWS