ข่าวประชาสัมพันธ์
อยุธยา - จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ร่วมกับ สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
จัดบูรณาการหน่วยงานราชการออกตรวจเยี่ยมสถานประกอบกิจการโรงงานในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน เพื่อร่วมกันปรึกษาหารือ รับฟังปัญหา แลกเปลี่ยนความคิดเห็น ส่งเสริมการลงทุน และประสานความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้ประกอบการในพื้นที่
วันที่ (10 ก.ค.66) เวลา 09.30 น. ที่ห้องประชุมสำนักงานนิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน ต.คลองจิก อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วย นายกกชัย ฉายรัศมีกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายธีระ แก้วพิมล อุตสาหกรรมจังหวัดพระนครศรีอยุธยา หัวหน้าส่วนราชการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมลงพื้นที่เยี่ยมเยือนสถานประกอบกิจการภายในนิคมดังกล่าว เพื่อร่วมกันปรึกษาหารือ รับฟังปัญหา แลกเปลี่ยนความคิดเห็น เตรียมความพร้อมรองรับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต และการส่งเสริมการลงทุน ตลอดจนประสานความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้ประกอบกิจการในพื้นที่ โดยมี นายธนกฤต โพธิ์ทอง ผอ.สนง.นิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน และคณะผู้บริหารสถานประกอบกิจการในนิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน ให้การต้อนรับและนำเสนอข้อมูลระบบการบริหารจัดการภายในนิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน อาทิ ระบบสาธารณูปโภค การบริหารจัดการ การป้องกันน้ำท่วม ปัญหา อุปสรรค และข้อเสนอแนะ
โดย นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร กล่าวว่า การลงพื้นที่พบปะเยี่ยมเยือนสถานประกอบการโรงงานครั้งนี้ เพื่อรับฟังปัญหาของภาคอุตสาหกรรม การบริหารจัดการน้ำ แลกเปลี่ยนข้อมูลกัน ด้วยมีความห่วงใยทั้งผู้ประกอบการและลูกจ้าง ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งในต้นทุนสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อการประกอบการในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งมีสถานประกอบกิจการกว่า 6,000 แห่ง ลูกจ้างกว่า 400,000 คน โดยมอบหมายให้ สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดพระนครศรีอยุธยา จัดทำโครงการตรวจเยี่ยมสถานประกอบการโรงงาน เพื่อร่วมปรึกษาหารือแนวทาง และมาตรการต่างๆ เพื่อเตรียมรองรับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต รวมทั้งการส่งเสริมการลงทุน ตลอดจนการประสานความร่วมมือ ระหว่างหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนในพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นการดูแลคุณภาพชีวิตหรือส่งเสริมการลงทุน อันเป็นการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของจังหวัดพระนครศรีอยุธยาในอนาคต พร้อมเน้นย้ำในเรื่องการทำ CSR โดยรอบบริษัทในด้านต่าง ๆ เพื่อให้เกิดประโยชน์กับชุมชน ประชาชน และจังหวัดพระนครศรีอยุธยา อีกด้วย
ทั้งนี้ ขอชื่นชม นิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน กับ CSR ที่ทำกับในพื้นที่ เพื่อสร้างสัมพันธภาพ ความเข้าใจอันดีกับชุมชนในพื้นที่ หรือชดเชยให้ได้รับสวัสดิการและสาธารณประโยชน์ อีกทั้ง ชื่นชมระบบการป้องกันและการแจ้งเตือนการบริหารจัดการน้ำ ซึ่งเราใช้ข้อมูลชุดเดียวกัน สิ่งที่ต้องร่วมกันทำ คือ ขอให้ช่วยกันผลักดัน กรมชลประทาน ในการดำเนินโครงการบริหารจัดการน้ำ 9 โปรเจ็ค ซึ่งในส่วนของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เรียกว่า โครงการเจ้าพระยา2 บางบาล-บางไทร เป็นโปรเจ็คแรก ได้เดินหน้าไปมากแล้ว
ที่ผ่านมา ได้มอบให้ ชลประทานจังหวัดพระนครศรีอยุธยา สำรวจความมั่นคงแข็งแรงของ เขื่อน และประตูระบายน้ำ ร่วมกับ ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดฯ ไปหารือกับหน่วยงานในพื้นที่ ในการเตรียมการป้องกันและแก้ไขจุดที่เป็นจุดอ่อนไหว และประสานกรมทางหลวง หรือแขวงทางหลวงอยุธยา สำรวจตรวจสอบเส้นทางการเดินทางที่สำคัญ และมีผลกับการดำรงขีวิตประจำวัน เช่น โรงพยาบาล โรงเรียน วัด โรงงาน สถานที่ติดต่อราชการ เป็นต้น
ทั้งนี้ หลังเกิดเหตุการณ์อุทกภัยครั้งใหญ่เมี่อปี 2554 รวมถึงเกิดวิกฤตการณ์โควิด-19 ทำให้โรงงานบางส่วนย้ายฐานการผลิต แต่เมื่อสถานการณ์เริ่มคลี่คลาย โรงงานบางส่วนกลับมาตั้งฐานการผลิตใหม่ ทำให้ทางบริษัทฯ ต้องขยายพื้นที่เพิ่ม เพื่อรองรับการตั้งฐานการผลิตในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
เดชา อุ่นขาว รายงานจากอยุธยา
สมาคมหนังสือพิมพ์ส่วนภูมิภาคแห่งประเทศไทย
สนับสนุนโดย