วันอาทิตย์ที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2565

สำนักงานหนังสือพิมพ์ทันใจนิวส์

ชาวใต้ยะลาดีใจ รัฐบาลเพิ่มเงินสวัสดิการแห่งรัฐให้อีกคนละ 200 บาทและโครงการคนละครึ่ง เฟส 5 วงเงินคนละ 800 บาท
ยะลา- ปชช.ชาวอำเภอเบตง จังหวัดยะลา วอนรัฐบาลเพิ่มวงเงินคนละครึ่งเฟส 5 จากคนละ 800 บาทเป็น 1,500- 2,000 บาท จึงจะสามารถแบ่งเบาภาระค่าครองชีพให้กับ ปชช.ได้อย่างแท้จริง  และจะสอดคล้องกับยุควิกฤตของแพง และอยากให้มีโครงการต่อไปเรื่อยๆ ประชาชน พ่อค้า แม่ค้า ดีใจเพราะจะช่วยทำให้ยอดขายกระเตื้องขึ้น
เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม ที่ อ.เบตง  จ.ยะลา  ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สำรวจหลังจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้อนุมัติโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 5 หรือ (คนละครึ่ง เฟส 5) วงเงินคนละ 800 บาท โดยผู้มีสิทธิ์รายเดิม สามารถยืนยันสิทธิ์ได้ในวันที่ 19 ส.ค. และรายใหม่สามารถลงทะเบียนได้ในวันที่ 19 ส.ค.เช่นกัน จากนั้นจะมีเงินโอนเข้าในแอพเป๋าตังค์ เริ่มใช้สิทธิ์ได้วันที่ 14 ก.ย.2565  และจากการสำรวจความเห็นทั้งพ่อค้าแม่ค้าและประชาชนชาวในพื้นที่ อ.เบตง จ.ยะลา ต่างเห็นตรงกันว่าโครงการคนละครึ่งเฟส 5 ที่รัฐให้วงเงินคนละ 800 บาทนั้นน้อยเกินไป  








  ไม่สอดคล้องกับภาวะราคาข้าวของที่แพงขึ้นในปัจจุบัน จึงอยากให้รัฐพิจารณาเพิ่มวงเงินคนละครึ่งจาก 800 บาท เป็น 1,500 – 2,000 บาท ถึงจะสามารถแบ่งเบาภาระค่าครองชีพของประชาชนได้ ส่วนร้านค้าที่ร่วมโครงการสวัสดิการแห่งรัฐ โดย พบว่ามีประชาชนมาใช้บริการน้อยลง ในบางช่วงไม่มีลูกค้าเลย ส่วนประชาชนที่ได้รับสิทธิ์คนละครึ่ง  บอกตรงกันว่า โครงการคนละครึ่งเป็นโครงการที่ดี เพราะสามารถช่วยแบ่งเบาภาระค่าครองชีพให้กับประชาชนได้ แต่เฟส 5 ที่รัฐให้วงเงินแค่คนละ 800 บาท ถือว่าน้อยเกินไปไม่สอดคล้องกับภาวะราคาสินค้าอุปโภคบริโภคที่แพงขึ้นเกือบทุกอย่าง จึงอยากให้รัฐพิจารณาเพิ่มวงเงินเป็นคนละ 1,500 บาทถึงจะสามารถแบ่งเบาภาระค่าครองชีพให้กับประชาชนให้เข้ากับยุควิกฤตข้าวของราคาแพง และอยากให้รัฐมีโครงการแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ
ขณะที่ น.ส.วาสนา เสนาจอหอ  อายุ 27  ปี กล่าวว่า ช่วงที่เศรษฐกิจไม่ดี ลูกค้าเข้ามาใช้บริการลดลง แต่ภายหลังรัฐบาลประกาศอนุมัติ โครงการเพิ่มวงเงินให้แก่ประชาชนที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐอีกจำนวนคนละ 200 บาทต่อเดือน เป็นระยะเวลา 2 เดือน จะเริ่มใช้สิทธิตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย.65 เป็นต้นไป ประชาชนที่ทราบข่าวก็รู้สึกดีใจมาก เพราะจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ และช่วยเหลือประชาชนที่มีกำลังซื้อน้อย อีกทั้งยังเพิ่มยอดขายให้กับร้านเป็นอย่างมาก ที่ผ่านมาโครงการของรัฐสามารถเข้ามาช่วยเหลือประชาชน ทำให้ผลตอบรับดีมาก ยอดขายของที่ร้านเพิ่มขึ้น ในเฟสก่อนๆ ก็มีลูกค้ามาใช้อย่างมาก ส่วนใหญ่จะซื้อของกิน ของใช้ แต่พอหมดโครงการก็ทำให้ลูกค้าลดน้อยลง พอจะมีเฟสใหม่มาก็คาดว่าลูกค้าจะเข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้นกว่าเดิม
ด้านชาวบ้านที่เคยมีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ  กล่าวว่า ตนมีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐอยู่แล้ว และได้ติดตามข่าวของโครงการรัฐบาลตลอด พอทราบว่าจะมีการเพิ่มวงเงินให้อีกคนละ 200 บาท ก็รู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก ที่รัฐบาลช่วยเหลือในช่วงเศรษฐกิจไม่ค่อยดี ปกติตนได้เดือนละ 300 บาท ก็จะใช้หมดตั้งแต่ต้นเดือนเลย ตอนนี้มีเพิ่มมาอีก 200 บาท รวมเป็น 500 บาท ก็จะทำให้สามารถซื้อของได้มากขึ้น โดยส่วนใหญ่ตนจะซื้อนมให้ลูกๆและของใช้ในครัวเรือน รวมทั้งของใช้ของกินต่างๆ ซึ่งสามารถลดค่าใช้จ่ายในครอบครัวเป็นอย่างมากถ้าจะช่วยเหลือจริงๆต้องเพิ่มวงเงินคนละครึ่งจาก 800 บาท เป็น 1,500 บาทจึงจะสามารถแบ่งเบาภาระค่าครองชีพกับยุควิกฤตข้าวของราคาแพงทุกอย่าง

ข่าว..เจษฎา สิริโยทัย อ.เบตง จ.ยะลา  โทร.064-126-5593 – 080-036-2786




โพสต์ข่าวแนะนำ

สำนักงานหนังสือพิมพ์ทันใจนิวส์

วันที่ 25 เมษายน 2567 กลุ่มงานเวชศาสตร์ชุมชน และชมรมผู้ผู้สูงอายุโรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ จัดกิจกรรมร่วมสืบสานประเพณีสงกรานต์ ร่วมทำบุญถ...

ข่าวดัง ยอดนิยม คนสนใจ